รีเซต

ผลการค้นหา “Gen Y The Series Season2 〜あなたに恋しちゃダメですか?〜” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
ดุล-บาส-บิ๊ก นำทีมบวงสรวงยิ่งใหญ่ Gen Y The Series Season 2
อ่าน

ดุล-บาส-บิ๊ก นำทีมบวงสรวงยิ่งใหญ่ Gen Y The Series Season 2

ข่าวบันเทิงวันนี้ Star Hunter Entertainment ตอกย้ำความสำเร็จเดินหน้าบวงสรวงเปิดกล้องซีรีส์วายฟอร์มยักษ์ Gen Y The Series Season 2 วัยรุ่นวุ่นYรัก พร้อมออกอากาศซีรีส์ 2 ช่องทาง กับออริจินัลคอนเทนต์ผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กด 33 ยิ่งใหญ่!โดยมีนักแสดงขวัญใจวัยรุ่น บาส สุรเดช, ดุล ร่มจำปา, คิมม่อน วโรดม, คอปเตอร์ ภานุวัฒน์, แบงค์ ธรณินทร์, โบนัส ธนเดช ร่วมแสดงนำ พร้อมด้วยหนุ่มหล่อจากเวที Superboy Project แบงก์ ภณ เจ็ท เฟอร์กี้ กาด ตั๋ง Star Hunter New Gen บิ๊ก ธนกร, เจมส์ กษม, ดานิว, แบงค์ธี, ISBANKY และ แก๊งนางฟ้า โยชิ, ฟลุค, ฮาจี้ ร่วมงานบวงสรวงซีรีส์ ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อวันก่อน Gen Y The Series Season 2 วัยรุ่นวุ่นYรัก คุณยชญ กรณ์หิรัญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เผยว่า จากความสำเร็จของ Gen Y The Series Season 1 วันนี้ Star Hunter Entertainment ยังคงเป็นพันธมิตรกับ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 Gen Y The Series Season 2 วัยรุ่นวุ่นYรัก วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีในการจัดงานบวงสรวงที่ยิ่งใหญ่ จัดหนัก จัดเต็มกว่าซีซั่น 1 ทั้งกองทัพนักแสดงที่ยกกันมาทั้งค่าย Star Hunter Entertainment กว่า 30 ชีวิต และทีมงานโปรดักชั่นคุณภาพ กับเรื่องราวที่เข้มข้นของการคลี่คลายปมความรัก ของ ธนู และ วายุ ที่แสดงโดย ดุล บาส ที่รับรองว่ามีฉากให้เราได้ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งความพิเศษของคู่ ดุล บาส ที่ได้มาเป็นคู่หลักในซีซั่น 2 เกิดจากการโหวตเลือกของแฟนคลับหลังจบ ซีซั่น 1 ว่าอยากจะให้ บาส คู่กับใครในซีซั่น 2 ซึ่งผลโหวตออกมาเป็น ดุล ครับ รวมไปถึงคู่ คิมม่อน คอปเตอร์ ที่หลังจากตอบตกลงเป็นแฟนกันแล้วความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้ ในภาคต่อจะเป็นอย่างไร หรือ คู่น้องใหม่ อย่าง แบงค์ และ โบนัส ที่เรียกว่าเด็ด และ แซ่บมากๆ จะเป็นยังไงต้องรอติดตามชมกันครับ ซึ่ง Gen Y The Series Season 2 วัยรุ่นวุ่นYรัก โอ๋ยังคงคอนเซปท์ซีรีส์ฟิวกู๊ดที่มีฉากจิ้น ฉากฟิน มาเสิร์ฟให้แฟนๆ ได้ดูและอารมณ์ดีไปตลอดทั้งเรื่อง ที่สำคัญคือนักแสดงทุกคนตั้งใจในการเล่นซีซั่น 2 กันมาก เพราะมีการซ้อมในเรื่องของบทและก็เตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ส่วนทีมงานก็ยังคุณภาพคับแก้วเช่นเดิม ซึ่งเราจะเดินหน้าถ่ายทำตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2021 (COVID-19) ออกอากาศให้ได้ชมกันทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กด 33 เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 23.00 น. รับรองว่าทุกคนจะได้ลุ้น และฟินจิกหมอนทุกตอนครับ ด้าน คุณผ่านศึก ธงรบ กล่าวเสริมว่า จากความสำเร็จของ Gen Y The Series Season 1 วัยรุ่นวุ่นYรัก บนแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ iQiyi (อ้ายฉีอี้) ซึ่งถือเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกของ iQiyi จากประเทศไทยสู่ตลาดโลก พร้อมด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นของ Star Hunter Entertainment หนึ่งในผู้ผลิตซีรีส์วายคุณภาพระดับแนวหน้าของไทย และฐานแฟนคลับของกลุ่มนักแสดงที่เติบโตขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกลไกการโหวตคู่จิ้นที่มาจากเสียงเรียกร้องของแฟนๆ อย่างแท้จริง ทำให้เรามั่นใจว่าครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่จะได้รับการตอบรับที่ดียิ่งขึ้นจากแฟนๆ หลากหลายประเทศ โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้ามาชม เข้ามาแชร์ ร่วมสนับสนุนส่งเสริมนักแสดงไทย ผู้ผลิตไทย และคอนเทนต์ไทยซึ่งมีความโดดเด่นน่าสนใจไม่แพ้คอนเทนต์นานาชาติบนเวทีสากลแน่นอนครับ เตรียมติดตามชม Gen Y The Series Season 2 วัยรุ่นวุ่นYรัก ทุกวันอังคาร เวลา 23.00 น. เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 21 ธันวาคมนี้ ทางช่อง 3 กด 33 กดเลย community แห่งความบันเทิง📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวมทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

Gen X, Gen Y, Gen Z หรือ Generation หมายถึงอะไร และมีกี่ประเภท
อ่าน

Gen X, Gen Y, Gen Z หรือ Generation หมายถึงอะไร และมีกี่ประเภท

  สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ ในปัจจุบันนี้เรามักจะได้ยินใครหลายคนพูดกันอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่อง Gen ไม่ว่าจะในสังคมหรือในโลกโซเชียลทั้ง Gen X, Gen Y, Gen Z เป็นต้น แต่รู้หรือไม่คะว่า ยังมีอีกหลายคนเลยค่ะ ที่ยังเข้าไม่ถึงความหมายของคำว่า Gen อีกทั้งยังงง ๆ และสับสนค่ะว่าแต่ละ Gen แต่ต่างกันอย่างไร ในบทความนี้ผู้เขียนจึงเขียนสรุปมาให้ทุกคนได้เข้าใจกันมากขึ้น และง่ายขึ้นค่ะ รับรองว่าอ่านจบคุยกับคนอื่นรู้เรื่องแน่นอน   Generation (เจเนอเรชั่น) หมายถึง รุ่น หรือ กลุ่มของบุคคลที่เกิดในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งมักจะมีประสบการณ์และลักษณะร่วมที่เกิดจากสภาพสังคม เศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้น ๆ การแบ่ง Generation หรือ รุ่น เป็นการจำแนกกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยมักจะสะท้อนถึงสภาพสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเติบโตของพวกเขา ในแต่ละรุ่นมีลักษณะและประสบการณ์ร่วมที่ทำให้พวกเขามีความแตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น 5 รุ่น ดังนี้     1. Baby Boomers (เกิดปี 1946–1964) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คำว่า "Baby Boom" หมายถึงการ "ระเบิด" หรือการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการเกิดเด็กในช่วงเวลาดังกล่าว   Baby Boomers มักจะถูกมองว่าเป็นรุ่นที่เติบโตในช่วงเวลาที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม และการเมืองในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในด้านสิทธิพลเมืองและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในปัจจุบันกลุ่ม Baby Boomers มักจะอยู่ในช่วงอายุ 60-80 ปี   ลักษณะเด่น - มีค่านิยมในเรื่องของการทำงานหนักและการรักษาครอบครัว - คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัย - อาจจะไม่ค่อยถนัดเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่ารุ่นที่ตามมา     2. Generation X (เกิดปี 1965–1980) Gen X เติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวและเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม พวกเขาเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเริ่มต้นบ้าง เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเจนเนอเรชั่นนี้เติบโตในช่วงหลังจาก Baby Boomers และก่อน Generation Y และมักถูกมองว่าเป็นรุ่นที่มีความเป็นอิสระสูงและมีแนวโน้มที่จะมองโลกในแง่ของความเป็นจริงและปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลง และกลุ่มนี้ยังถูกมองว่าเป็นรุ่นที่มีความสามารถในการเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้ดี สรุปคือ Gen X เป็นเจนเนอเรชั่นที่เติบโตในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในหลายๆ ด้าน และพวกเขามักจะมีทัศนคติที่เน้นความยืดหยุ่นและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงมากกว่าการยึดติดกับค่านิยมแบบดั้งเดิมจากเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า   ลักษณะเด่น - เชื่อมั่นในความเป็นอิสระและการปรับตัว - ประสบกับการหย่าร้างของพ่อแม่หรือครอบครัวที่แตกแยกมากขึ้น - ไม่ค่อยเชื่อในระบบหรืออำนาจจากสถาบันทางสังคม     3. Generation Y หรือ Millennials (เกิดปี 1981–1996) Generation Y หรือ Millennials เป็นกลุ่มที่เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและมือถือเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ เป็นรุ่นที่คุ้นเคยกับโลกดิจิทัลตั้งแต่เด็ก เติบโตขึ้นมาในช่วงที่อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลเริ่มมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจนถึงการเข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, และ YouTube พวกเขามีความคุ้นเคยกับการเชื่อมต่อออนไลน์และการใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ทำให้การเข้าถึงข้อมูลและการเชื่อมโยงกับผู้คนทั่วโลกเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ทัศนคติเกี่ยวกับการทำงานมักจะมองหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว พวกเขาให้ความสำคัญกับการมีอิสระในการทำงาน เช่น ความยืดหยุ่นในเรื่องเวลาและสถานที่ทำงาน รวมถึงการทำงานที่มีความหมายหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคม พวกเขามักจะไม่มองว่าการทำงานหนักหรือการทำงานตลอดเวลาคือความสำเร็จ แต่กลับมองหาคุณภาพชีวิตที่ดี การได้ทำงานที่ตนเองสนใจ และการมีเวลาสำหรับครอบครัวและเพื่อน อีกทั้งยังเติบโตในสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ, ศาสนา, และวัฒนธรรมมากขึ้น จึงมักจะเปิดกว้างและยอมรับความแตกต่างทางสังคม มักมีทัศนคติที่ยืดหยุ่นและเห็นความสำคัญของความเท่าเทียมในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิของผู้หญิง, LGBTQ+, การศึกษา และสิทธิมนุษยชน และกลุ่มนี้มักมีการศึกษาในระดับสูงและมักจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเอง โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเสริมทักษะ และการมีทักษะที่หลากหลาย มักมีการใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น การเรียนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือการศึกษาในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนในห้องเรียนแบบดั้งเดิม การมองโลกในแง่บวกและการมีส่วนร่วมในสังคม   ลักษณะเด่น - มีความคิดสร้างสรรค์และมักจะเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ - ให้ความสำคัญกับการหาสมดุลชีวิตระหว่างงานและเวลาส่วนตัว - มีความคาดหวังสูงในเรื่องของการเรียนรู้และการพัฒนา     4. Generation Z (เกิดปี 1997–2012) กลุ่มที่เติบโตในยุคเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลอย่างสูง พวกเขามักจะใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตอย่างคล่องแคล่ว และเป็นกลุ่มแรกที่เติบโตมาในยุคที่อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย พวกเขามักจะไม่เคยรู้จักโลกที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่มีสมาร์ทโฟน การใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยพวกเขามักจะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกและแบ่งปันประสบการณ์ในโลกออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ การสื่อสารหลัก ๆ คือผ่านข้อความ, วิดีโอคอล, และโซเชียลมีเดีย มากกว่าการโทรศัพท์หรือการพบปะกันแบบตัวต่อตัว Gen Z มีความคิดที่เป็นอิสระและมองหาความยืดหยุ่นในชีวิตการทำงาน พวกเขามักจะให้ความสำคัญกับการทำงานที่สามารถตอบโจทย์ความสนใจและความคุ้มค่าของชีวิตมากกว่าการทำงานตามคำแนะนำของสังคมหรือการทำงานเพื่อเงินเพียงอย่างเดียว พวกเขามักจะมองหาอาชีพที่มีคุณค่าและสามารถมีผลกระทบต่อโลกในทางบวก เช่น การเลือกทำงานกับบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม Gen Z มักมีจิตสำนึกที่สูงในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อม พวกเขาให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน และมีทัศนคติที่ให้ความสนใจในปัญหาสังคม เช่น ความยุติธรรมทางเชื้อชาติ, สิทธิของ LGBTQ+, ความเท่าเทียมทางเพศ และปัญหาสังคมอื่น ๆ เติบโตในโลกที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ, วัฒนธรรม, และเพศมากขึ้น พวกเขามีทัศนคติที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง   ลักษณะเด่น - เติบโตในโลกที่เชื่อมต่อกันมากขึ้น มีทักษะดิจิทัลสูง - มีความสนใจในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียม - ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางออนไลน์และการปกป้องข้อมูลส่วนตัว     5. Generation Alpha (เกิดปี 2013–ปัจจุบัน) กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป และเป็นกลุ่มที่ยังคงเติบโตอยู่ในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็กหรือวัยรุ่นในตอนนี้ โดยมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากกลุ่มเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าเนื่องจากการเติบโตในยุคของเทคโนโลยีขั้นสูงและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Generation Alpha จะได้รับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น โดยมีการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์ (eLearning), การใช้แอปพลิเคชันการศึกษา, และเครื่องมือที่ช่วยเสริมทักษะในการเรียน พวกเขาจะเติบโตในโลกที่การเรียนรู้และการศึกษามีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถเรียนรู้ได้จากทุกที่ทุกเวลา ด้วยการเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือในการศึกษาที่ทันสมัย ตั้งแต่เด็ก Generation Alpha มักจะมีประสบการณ์กับเทคโนโลยี เช่น การใช้สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรืออุปกรณ์สมาร์ทต่างๆ ตั้งแต่ยังเล็ก การที่เด็ก ๆ เติบโตมาในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้พวกเขามีทักษะทางดิจิทัลในระดับสูงตั้งแต่ยังเด็ก และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว Generation Alpha เติบโตในโลกที่การเชื่อมต่อระหว่างประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้นผ่านโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ ทั่วโลก พวกเขามีความสามารถในการเชื่อมโยงกับเพื่อนหรือผู้คนจากต่างชาติได้อย่างรวดเร็ว และมีทัศนคติที่เปิดกว้างต่อวัฒนธรรมและสังคมที่แตกต่าง   ลักษณะเด่น - คุ้นเคยกับเทคโนโลยีตั้งแต่เด็ก - เติบโตในโลกที่มีความเครียดทางสังคมและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น - คาดว่าจะมีความสามารถในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้เร็ว   แบบทดสอบความรู้เรื่อง Generation 1. Generation X เกิดในช่วงปีใด? a) 1946-1964 b) 1965-1980 c) 1981-1996 d) 1997-2012   2. คำว่า "Baby Boomers" หมายถึงอะไร? a) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 b) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 c) กลุ่มคนที่เกิดในยุคดิจิทัล d) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงเศรษฐกิจโลกถดถอย   3. เจเนอเรชั่นใดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเติบโตในยุคของอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z   4. ใครคือกลุ่มที่มักจะให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากที่สุด? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Alpha   5. Generation Alpha เกิดในช่วงปีใด? a) 2000-2012 b) 1990-2005 c) 2013-ปัจจุบัน d) 2010-2025   6. กลุ่มเจเนอเรชั่นไหนที่เติบโตในช่วงของวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z   7. เจเนอเรชั่นไหนที่ได้รับการรู้จักว่ามีทักษะการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียสูงสุด? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z   8. กลุ่มไหนที่มักให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ผ่านแหล่งข้อมูลออนไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัล? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Alpha   9. Generation Y (Millennials) เติบโตในยุคที่การใช้เทคโนโลยีใดที่มีอิทธิพลต่อสังคมมากที่สุด? a) การใช้อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ b) การใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย c) การใช้โทรศัพท์บ้าน d) การใช้เครื่องเล่นเกม   10. กลุ่มไหนที่มักจะถูกมองว่าเป็น "เจเนอเรชั่นที่ถูกลืม" เพราะมีจำนวนคนไม่มากพอเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ? a) Baby Boomers b) Generation X c) Generation Y d) Generation Z *เฉลยอยู่ท้ายบทความ     สรุปประเภทของ Generation แบบสั้น ๆ และเข้าใจง่าย Baby Boomers (เกิดประมาณ 1946-1964) เติบโตในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่านิยมเกี่ยวกับความมั่นคงในงานและครอบครัว มีจำนวนมากที่สุดในยุคนั้น ให้ความสำคัญกับการทำงานหนักและการมีครอบครัวที่มั่นคง Generation X (เกิดประมาณ 1965-1980) เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง มักมีความเป็นอิสระและปรับตัวเก่ง ใช้ชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เน้นความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว Millennials หรือ Generation Y (เกิดประมาณ 1981-1996) เติบโตในยุคของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย มองหาประสบการณ์มากกว่าสิ่งของวัตถุ ความสะดวกสบายกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาชีพที่มีความหมายและความยืดหยุ่นในการทำงาน Generation Z (เกิดประมาณ 1997-2012) เติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยี มีความเชื่อมต่อออนไลน์ตลอดเวลา ทักษะด้านเทคโนโลยีสูง สนใจในความยั่งยืนและปัญหาสังคม เช่น สิทธิมนุษยชนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Generation Alpha (เกิดประมาณ 2013-ปัจจุบัน) กลุ่มคนที่เกิดหลังจาก 2013 เติบโตในยุคที่เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์, VR, สมาร์ทโฟน เป็นส่วนสำคัญของชีวิต เริ่มใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ยังเด็ก เติบโตในโลกที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์   โดยแต่ละเจนเนอเรชั่นมีลักษณะและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ตามสภาพสังคมและเทคโนโลยีที่พวกเขาเติบโตในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น Baby Boomers ให้ความสำคัญกับความมั่นคง, Generation X เน้นความเป็นอิสระ, Generation Y หรือ Millennials สนใจประสบการณ์และการทำงานที่มีความหมาย, Generation Z คุ้นเคยกับโลกออนไลน์, และ Generation Alpha เติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การแบ่ง Generation จะช่วยให้เราเข้าใจถึงลักษณะและมุมมองของกลุ่มคนแต่ละรุ่นที่ถูกกำหนดด้วยเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่พวกเขาเติบโตขึ้นมา และช่วยในการศึกษาแนวโน้มต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการพัฒนาเทคโนโลยี แต่การแบ่งนี้ไม่เป็นกฎที่ตายตัวค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะช่วยให้สามารถทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีในแต่ละช่วงเวลาได้ โดยทั่วไปแล้ว การพูดถึง Generation มักใช้เพื่อสะท้อนถึงความแตกต่างในมุมมอง ความเชื่อ การใช้เทคโนโลยี หรือวิถีชีวิตระหว่างกลุ่มคนแต่ละรุ่นค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทุกคนเข้าใจเรื่อง Generation กันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกคน และได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่มากก็น้อยนะคะ และอย่าลืมติดตามบทความต่อ ๆ ไปของเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ   ช่องทางการติดตาม อังกฤษออนไลน์ - แอมไฟน์ แต๊งกิ้ว True ID: https://creators.trueid.net/@117825 FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/englishonlineimfinethankyou Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCWfLIf66fDJuI86DqRPLGgQ   ขอบคุณรูปภาพประกอบ ภาพหน้าปกและภาพประกอบหน้าปกทั้งหมด โดย https://www.canva.com/th_th/ ภาพประกอบ 1-6 จาก https://www.freepik.com/ ภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 โดย freepik     เฉลยแบบทดสอบ 1. b) 1965-1980 Generation X เกิดในช่วงระหว่างปี 1965 ถึง 1980 2. b) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Baby Boomers เกิดในช่วงปี 1946-1964 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 3. d) Generation Z Generation Z เติบโตในโลกที่เทคโนโลยีดิจิทัลและสมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญของชีวิต 4. c) Generation Y (Millennials) Millennials มักจะให้ความสำคัญกับการหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว 5. c) 2013-ปัจจุบัน Generation Alpha คือกลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป 6. c) Generation Y (Millennials) Millennials (Generation Y) เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2008 7. d) Generation Z Generation Z เป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมากที่สุด 8. d) Generation Alpha Generation Alpha เป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และได้รับการศึกษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 9. b) การใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย Millennials เติบโตในยุคของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลสูง 10. b) Generation X Generation X มักถูกมองว่าเป็น "เจเนอเรชั่นที่ถูกลืม" เนื่องจากมีขนาดกลุ่มที่ไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับ Baby Boomers และ Millennials   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Redmi K70 series ก็จะใช้ Snapdragon 8 Gen 3 ตัวแรงเหมือนกัน !
อ่าน

Redmi K70 series ก็จะใช้ Snapdragon 8 Gen 3 ตัวแรงเหมือนกัน !

 มีข่าวลือว่า Snapdragon 8 Gen 3 จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้และ Xiaomi 14 Series จะเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้ชิปนี้ ล่าสุด Digital Chat Station รายงานว่า Redmi แบรนด์ย่อยของ Xiaomi ก็จะนำชิปนี้มาใช้ใน Redmi K70 Series เช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคะแนนผลการทดสอบของ Snapdragon 8 Gen 3 ออกมาด้วย โดยได้คะแนน Geekbench แบบ Single-core ได้คะแนนที่ 2,563 คะแนน และได้คะแนน Multi-core ที่ 7,256 คะแนน และได้คะแนน AnTuTu ที่ 1,771,106 คะแนน อย่างไรก็ตาม K60 Pro ยังคงมีขายแค่ในตลาดจีนเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีทราบว่า K70 Pro จะวางจำหน่ายในตลาดนอกประเทศจีนหรือไม่ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีข้อมูลสเปกอื่นๆ ของ Redmi K70 series ออกมาแต่อย่างใด ที่มา gizmochina.com พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

แนะนำซีรีส์ Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก
อ่าน

แนะนำซีรีส์ Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก

          Gen Y The series วัยรุ่นวุ่นYรัก เป็นภาคต่อจากซีรี่ส์ เดือนเกี้ยวเดือนSeason1 และยังคงมีนักแสดงนำหลักจากเดือนเกี้ยวเดือนSeason1มารับบทเป็นตัวละครเดิม ในชื่อใหม่อีกด้วย และยังมีตัวละครใหม่ๆ โผล่ขึ้นมาเพื่อเพิ่มสีสันให้กับซีรี่ส์เรื่องนี้อีกด้วย และวันนี้เราก็จะมาแนะนำช่องทางการอ่านนิยายของเรื่อง  Gen Y The series วัยรุ่นวุ่นYรัก มีให้ติดตามอ่านกันได้ที่ แอปอ่านนิยาย     ธัญวลัย และตอนนี้ก็ได้จบลงไปแล้วสำหรับเวอร์ชันนิยาย มีทั้งหมด 45 ตอน        แน่นอนว่าต้องมี วาโย เดือนคณะวิทยาศาสตร์ แต่ในเรื่องนี้ตัวละครชื่อว่า วายุ และยังมีเดือนมหาลัยปีที่ผ่านมาอย่าง     คุณหมอพนา หรือพี่ป่า ในเรื่องนี้ตัวละครชื่อ หมอ ปารวีย์ หรือพี่ปา คู่หลักในซีรี่ส์เดือนเกี้ยวเดือน และอีกคู่ คือ มิ่ง-คิด แต่ในเรื่องนี้นั้น ตัวละครมีชื่อว่า มาร์-กิจ มาร์ค ก็เป็นเดือนมหาลัยปีล่าสุดเหมือนเดิม และหมอกิจ ก็เป็นคนที่วันๆ ก็อยู่แต่กับหนังสือ ถึงจะดูเป็นคนหัวร้อนขี้หงุดหงิดแต่จริงๆแล้วหมอกิจก็น่ารักๆคนหนึ่ง        และตัวละครที่เพิ่มเข้ามาตอนนี้ วายุได้มีน้องชายที่กำลังจะจบม.6และกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับวายุด้วย นั่นก็คือแสนแสบ นอกจากแสนแสบแล้วยังมีไผ่ เพื่อนรุ่นเดียวกันที่เป็นน้องของหมอกิจ และยังจะเข้ามาเป็นรุ่นน้องที่คณะของวายุด้วย ยังไม่หมดแค่นี้ยังมีผองเพื่อนยกทับมาสร้างความสนุกอีกมากมายอย่างเช่น แสนดี ป๊อก ตอง ขลุ่ย กาแล       ยังไม่หมดแค่นี้ทางฝ่ายของวัยมหาลัยนั้นก็มีตัวละครเพิ่มขึ้นมา ตัวละครสำคัญอย่างหมอ ธนู เป็นรุ่นพี่คณแพทย์ของหมอปาและหมอกิจ แถมยังเป็นเดือนมหาวิทยาลัยปีก่อนหน้าของหมอปาด้วย นอกจากนี้ยังมี พี่พัดโบก พี่แจ๊ก พี่จิว เพื่อนรุ่นเดียวกันกับพี่ธนู แต่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันมา จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นคนที่เจอกันเมื่อไรต้องมีเรื่องเมื่อนั้นเรื่องราวของซีรี่ส์ Gen Y The series วัยรุ่นวุ่นYรัก มีความหักมุมจากเรื่องเดือนเกี้ยวเดือนseason1อยู่ และตอนนี้เวอร์ชันซีรี่ส์ก็กำลังถ่ายทำอยู่ แฟนๆซีรี่ส์สามารถเข้าไปอ่าน Season1ได้ที่ ธัญวลัย เรื่องนี้ได้ยินว่าจะมีถึง3season นะเธอภาพจาก Officail Facebook -  รูปที่1 / รูปที่2  / รูปที่3 / รูปที่4 

ซีซั่น 2 มาแน่!! Gen Y The Series ปังข้ามคืน ขึ้นเทรนอันดับ 9 ของโลก
อ่าน

ซีซั่น 2 มาแน่!! Gen Y The Series ปังข้ามคืน ขึ้นเทรนอันดับ 9 ของโลก

ข่าวบันเทิงวันนี้ Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก ซีซั่น 1 ติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 1 ของไทยข้ามคืน พร้อมเหมาเทรนทวิตเตอร์ไทยไปทั้ง 3 อันดับแรกแบบไม่มีใครมาแซง ตอกย้ำความฮิตด้วยการติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 9 ของโลกไปแบบลอยลำ ทำเอาผู้จัดต้นตำรับสายวาย โอ๋ Star Hunter หรือ โอ๋ - ยชญ กรณ์หิรัญ ผู้จัดซีรีส์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ค่าย Star Hunter Entertainment เป็นปลื้ม! กับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด พร้อมยกมาตรฐาน ซีรีส์วาย และจัดกิจกรรมให้คนดูได้ร่วมกำหนดทิศทาง Gen Y ซีซั่น 2 ที่จะออกอากาศให้ชมในช่วงปลายปี 2021 Gen Y The Series ปังข้ามคืน ขึ้นเทรนอันดับ 9 ของโลก ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาให้โอ๋ นักแสดง และทีมงาน ที่ร่วมกัน สร้าง Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก ซีซั่น 1 หายเหนื่อยกับฟีดแบ็กที่เรียกว่าดีเกินคาดมากๆ ครับ คือ กระแสดีตั้งแต่ EP.1 จนถึงตอนจบ ซึ่ง EP.12 ถือเป็นการทุบทุกกระแสทวิตเตอร์ ด้วยการติดเทรนทวิตเตอร์อันดับ 9 ของโลก และติดเทรนทวิตเตอร์ของไทยอันดับ 1 ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ ซีรีส์เริ่มออนแอร์ ถึงรุ่งเช้าอีกวัน และยังมี # (แฮชแท็ก) ที่เกี่ยวกับซีรีส์ Gen Y ติดเทรนทวิตเตอร์ไทยถึง 6 อันดับ ด้วยการติดเทรน 3 อันดับแรก กับ # อันดับ 1 #GenYfinalEP อันดับ 2 #GenYTheSeries อันดับ 3 #ธนูวายุ ที่ในเรื่องรับบทโดย ดุล ร่มจำปา และ บาส SBFIVE (บาส - สรุเดช พินิวัตร์) และยังมี # ในอันดับ 23 #ป๊อกตอง ที่ในเรื่องรับบทโดย โบนัส Superboy และ แบงค์ Superboy ส่วนอันดับ 24 เป็น #GenYEP12 และ อันดับ 25 #ดุลบาส โอ๋ถือเป็นของขวัญชั้นเยี่ยมที่ตอบแทนพวกเราครับ ซึ่งตอนจบเราจัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆ กับการกลับมาของตัวละคร ปารวีย์ หรือ หมอปา ยอมรับว่า... แอบใจร้ายกับตัว วายุ ที่แสดงโดย บาส SBFIVE ครับ แต่โอ๋อยากสร้างมาตรฐานของซีรีส์วายให้เป็นอีก 1 ผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้แบบไม่น้อยหน้าชาติไหน และโอ๋ได้บอกไปตั้งแต่เริ่มสร้างแล้วว่า... Gen Y เป็นมิติใหม่ของซีรีส์ ที่เราตั้งใจทำเป็นซีรีส์วายปลายเปิดให้คนดูได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของ Gen Y ซีซั่น 2 ที่เราจะเดินหน้าถ่ายทำช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ว่าอยากให้เส้นเรื่องเป็นอย่างไรครับ โอ๋ อยากให้แฟนๆ ได้ร่วมกำหนดพรหมลิขิต หรือ จะลิขิตเอง ใน Gen Y The Series ซีซั่น 2 ว่าอยากเห็น วายุ คู่กับ ใคร โดยเราจะมีกิจกรรมให้ได้ร่วมโหวตกันได้ ตั้งแต่ 1 - 28 กุมภาพันธ์ 2564 เท่านั้น ส่วนกฎกติกา จะเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปติดตามได้ทุกช่องทางออฟฟิเชียล ของ Star Hunter Entertainment ครับ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก ช่อง 3HD (ตอนจบ) เคลียร์ชัด!! ต้นสังกัดยัน บาส คิมม่อน คอปเตอร์ SBFIVE ไม่เคยไปงานปาร์ตี้ตั้งแต่ปีใหม่จนถึงปัจจุบัน เปิดกอง! Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก รวมดาราแม่เหล็กสายวาย บาส-คิมม่อน-คอปเตอร์ เตรียมปังเลยจ้า!

เผยคะแนน Snapdragon 7+ Gen 2 แรงกว่า Snapdragon 8 Gen 1!
อ่าน

เผยคะแนน Snapdragon 7+ Gen 2 แรงกว่า Snapdragon 8 Gen 1!

Qualcomm เปิดตัวชิป Snapdragon 7+ Gen 2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยไม่มีการเปิดตัวรุ่นเล็กอย่าง Snapdragon 7 Gen 2 แต่ข้ามมารุ่นพลัสเลยทีเดียว ชิปเซต Snapdragon 7+ Gen 2 มาพร้อมกับ CPU ที่แรงอย่างน่าทึ่ง เป็นชิปเซตระดับกลางที่ประกอบไปด้วย Cortex-X2 ทั้งหมด 1 แกน ที่ความเร็ว 2.91GHz, Cortex-A710 ทั้งหมด 3 แกน ที่ความเร็ว 2.49GH และ Cortex-A510 ทั้งหมด 4 แกนที่ความเร็ว 1.8GHz ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีหน่วยประมวลผลรหัส X บนชิปเซ็ตระดับกลางของ Qualcomm แม้ว่าจะเป็นชิปเซตระดับกลาง แต่ผลการทดสอบพบว่า Snapdragon 7+ Gen 2 สามารถทำคะแนนได้ระดับน้อง ๆ ของ Snapdragon 8 Gen 1 ตามผลการทดสอบด้านล่างนี้ ผลการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่า Snapdragon 7+ Gen 2 นั้นนับว่าแรงกว่า Snapdragon 8 Gen 1 และ Exynos 2200 ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S22 Ultra เสียอีกครับ แต่หากเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 2 แล้วก็ถือว่ายังตามพอสมควร ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้ว่าด้าน CPU จะแรงกว่า Snapdragon 8 Gen 1 ก็จริง แต่ด้าน GPU ก็ยังมีคะแนนที่ตามแบบทิ้งห่างพอสมควร แต่แรงกว่า Snapdragon 778G Plus ที่ใช้ใน Nothing Phone 1 ราว 2 เท่าเลยทีเดียว ที่มา Android Authority

“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”
อ่าน

“ไบเบิ้ล” ตัวแทน “KinnPorsche The Series” รับรางวัล “Most Popular Y Series”

ไบเบิ้ล ตัวแทน KinnPorsche The Series รับรางวัล Most Popular Y Series ถึงแม้ว่า KinnPorsche The Series ซีรีส์วายสายแอคชั่น มาเฟียในไทยเรื่องแรกเรื่องนี้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ด้วยกระแสของความปังทั้งตัวของนักแสดงทุกคน เนื้อเรื่อง โปรดักชั่นที่จัดเต็ม แสง สี เสียง เอฟเฟ็ค เลยยังทำให้มีแฟนๆพูดถึงตลอด ซึ่งไม่ได้โด่งดังแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างฐานแฟนคลับไปได้ไกลทั่วโลกอีกด้วย ล่าสุด KinnPorsche The Series คว้ารางวัล Most Popular Y Series หรือ ซีรีส์วายยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2023 งานนี้ ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เลยเป็นตัวแทนเพื่อนๆนักแสดงและจากบริษัท บีออนคลาวน์ จํากัด ขึ้นไปรับรางวัลนี้อีกด้วย ยังไงทางดาราเดลี่ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงและทีมงาน KinnPorsche The Series ทุกคนด้วยนะคะ เพราะสมมงสุดๆไปเลยค่า

(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล
อ่าน

(Hands-On) สัมผัสแรก Samsung Galaxy Watch6 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ งาน Unpacked กรุงโซล

เปิดตัวไปแล้วกับ Samsung Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series ในงาน Unpacked ณ กรุงโซลสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งหลังจบงานเราก็ได้มีโอกาสไปจับเครื่องจริงกันด้วย กับทั้งสองรุ่น ซึ่งภายในงานก็มีการจัดโซน และ Drop Out ต่าง ๆ ให้ลองเล่น และถ่ายภาพ สมกับเป็นงาน Unpacked Galaxy Watch6 และ Watch6 Classic นี่เป็นสมาร์ตวอตช์ที่ผมตื่นเต้นมากที่จะได้จับของจริง Watch6 Classic นำเอา Rotate Ring กลับมาแล้ว หน้าตาดูมีความ Classic และสวยมาก ซึ่งก็นำมาแทนที่รุ่น Pro ไปเลย หลังจากที่ในรุ่น 5 นั้นถูกตัด Classic ออกไป สิ่งแรกที่ได้จับแล้วต้องสังเกตเห็นเลย คือหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะสุดขอบ ไม่เหมือนกับรุ่นเก่าที่ขอบหนา (เช่น Watch4 ที่ผมใช้อยู่) ซึ่งในรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 37.33 มม. แล้วนั่นเอง และอัปเกรดเป็นรุ่น 43mm และ 47mm แทน วัสดุเท่าที่จับ ดูแข็งแรงทนทานดี ตัวกระจกหน้าจอก็เปลี่ยนมาใช้ Crystal Sapphire แทนแล้ว ซึ่งจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเปลี่ยนแปลงไปประมาณนี้สำหรับ Watch6 Series ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ขอบบางลงแบบนี้ ดูหล่อมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ Samsung Galaxy Tab S9 Series ในส่วนของ Tab S9 Series รอบนี้ ก็ยังมีรุ่นสับมากถึง 3 รุ่นเหมือนเดิม Tab S9, Tab S9+ และ Tab S9 Ultra ซึ่งคราวนี้ถึงแม้หน้าตาจะดูเหมือนเดิมหมด แต่ที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือตัว S9 ที่เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบรุ่นใหญ่ แทนที่จะเป็น LCD แล้ว หน้าจอดูสวยงามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยก็สมกับเป็นแท็บเล็ตเรือธงทุกตัวสักที นอกจากนั้นไม่ค่อยมีอะไรแปลงที่เห็นได้ทันทีมากนัก ซึ่งหลัก ๆ ที่อัปเกรดจากรุ่นปีที่แล้ว ที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ก็เหมือนกับรุ่นอื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพ ความร้อน และแบตเตอรี ซึ่งใครสนใจทั้งสอง Series นี้ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดสเปกเพิ่มเติมในลิงก์นี้ ซึ่งมีรายละเอียดโปรโมชัน ของ Samsung ประเทศไทยอยู่ด้วยครับ ความประทับใจของงาน NDA ครั้งนี้ อันนี้แอบอยากพูดแนบมาด้วย ประทับใจงาน NDA (Non Disclosure Agreement งานรอบสื่อที่จะได้จับเครื่องจริงก่อนเปิดตัวจริง เพื่อเตรียมข้อมูลไปทำข่าว) ของ Samsung ที่เกาหลีมาก ด้วยความที่ครั้งนี้มันเป็นการจัด Unpacked ครั้งแรกในบ้านเกิดเขา พร้อมกับมีจำนวนสื่อไอทีมาจากทั่วโลกแบบล้นหลาม มันเลยเป็นงาน NDA ที่ยิ่งใหญ่มาก แต่พื้นที่ที่จัด NDA ก็จะเล็ก ๆ นะ ไม่ได้ใหญ่ จะคงเพราะว่าจะได้คุมคนได้ ซึ่งทางทีมงานได้มีการจัดแสงทุก Drop Out เลย แบบว่านี่คือการเดินดุ่ม ๆ เอา S23 Ultra ไปถ่ายแบบเร็ว ๆ ภาพก็ออกมาสวยเลย เพราะทีมงานจัดแสงโหดมาก แต่ละจุดก็จะมีการวางเรียงกันเล่นกับกิมมิคต่าง ๆ ของเครื่องด้วย ซึ่งจำนวนเครื่องที่ใช้ในพื้นที่ NDA มีเป็นร้อย ๆ เครื่องเลย แถมยังเอาวิศวกรผู้ออกแบบมานั่งตอบคำถามที่สงสัยเองเลยด้วย และยังมีโซน Studio ให้เราเข้าไปนั่งรีวิวกันข้างในนั้นได้เลยอีก

Qualcomm เปิดตัวชิป AR/VR ใหม่: Snapdragon XR2 Gen 2 และ AR1 Gen 1
อ่าน

Qualcomm เปิดตัวชิป AR/VR ใหม่: Snapdragon XR2 Gen 2 และ AR1 Gen 1

Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเซตรองรับแพลตฟอร์ม AR/VR รุ่นใหม่ เรียกว่า Snapdragon XR Gen 2 และ AR1 Gen 1 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของอุปกรณ์ Mixed Reality และ Virtual Reality ที่มีน้ำหนักเบาและมิได้เชื่อมต่อกับชุดแบตเตอรี่เสริมได้มากขึ้น และจะช่วยให้ผู้พัฒนาอุปกรณ์ AR/VR รายอื่นสามารถพัฒนาอุปกรณ์ที่มีความล้ำหน้าในตลาดเพื่อแข่งกับ Vision Pro ของ Apple ได้ เริ่มกันที่ Snapdragon XR Gen 2 ที่รองับอุปกรณ์ทั้งแบบ Mixed Reality และ Virtual Reality โดยมีจีพียู (GPU: หน่วยประมวลผลกราฟิก) ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2.5x, มีประสิทธิภาพการประมวลผลด้วย AI ดีขึ้น 8x, รองรับกล้องและเซนเซอร์สูงสุด 10 ตัว บนอุปกรณ์, รองรับจอความละเอียด 3K จำนวน 2 จอ และติดตั้งหน่วยประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) ของ Spectra ทางด้าน Snapdragon AR1 Gen 1 นั้น จะเน้นไปที่อุปกรณ์ในลักษณะแว่นตาอัจฉริยะที่รองรับการแสดงเนื้อหา Mixed Reality เป็นสำคัญ โดยจะช่วยในการบันทึ่กและถ่ายถอดสดโดยตรงจากตัวแว่นตา อีกทั้งยังสามารถค้นหารูปภาพและแปลข้อความบนพื้นผิวจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชิปเซตทั้ง 2 ตัวนั้น ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Meta บริษัทแม่ของ Facebook โดจะเปิดตัวพร้อมกับอุปกรณ์ในเครือของ Meta ในปี 2023 นี้ ยกตัวอย่างเช่น Meta Quest 3 ที่ได้รับการเปิดตัวไปแล้วพร้อมชิป Snapdragon XR 2 Gen 2 ในขณะที่แว่นตาอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta จะใช้ชิปเซต Snapdragon AR1 ส่วนผู้ผลิตอุปกรณ์ AR/VR รายอื่น ๆ จะสามารถพัฒนาอุปกรณ์ของตนโดยใช้ชิปเซตดังกล่าวได้ในปี 2024 ที่มา : GSMArena

"ศุภาลัย-ซีเนริโอ" เปิดตัวใหม่รายการออนไลน์ "ถ้าเธอเคาะ! เราเต๊าะนะ!" จับกลุ่มลูกค้าสู่ Gen Y & Gen Z
อ่าน

"ศุภาลัย-ซีเนริโอ" เปิดตัวใหม่รายการออนไลน์ "ถ้าเธอเคาะ! เราเต๊าะนะ!" จับกลุ่มลูกค้าสู่ Gen Y & Gen Z

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งในเรื่องของดีไซน์ การออกแบบ ฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งล่าสุดร่วมกับบริษัท ซีเนริโอ จำกัด ผลิตรายการ ถ้าเธอเคาะ! เราเต๊าะนะ! ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของธุรกิจอสังหาฯ โดยมุ่งหวังสร้างภาพลักษณ์ สร้างการรับรู้ และสร้างการจดจำแบรนด์ของบริษัทให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างกลุ่ม Gen Y และ Gen Z มากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้กำลังจะเข้ามามีบทบาทในตลาดอสังหาฯ ในอนาคตอย่างแน่นอน นายไตรเตชะกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้สร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มักจะนึกถึงความคุ้มค่าของพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านหรือคอนโดฯ และความคุ้มค่าของราคาที่ต้องจ่ายไปให้สอดคล้องกัน ซึ่งในกลุ่มคน Gen Y ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยที่ทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว มีกำลังทรัพย์พร้อมซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนในกลุ่มคน Gen Z กลุ่มนี้น่าสนใจมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงกำลังเติบโต ศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบ และจะเข้ามาบทบาททางการตลาดอสังหา ฯ ในอนาคต ถือเป็นโอกาส และความท้าทายของบริษัทฯ ที่จะพัฒนาทุกกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ และเข้าถึงความต้องการของกลุ่มคน 2 กลุ่มนี้ได้อย่างตรงจุด ทางศุภาลัยได้เล็งเห็นช่องทางที่จะสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ในรูปแบบใหม่ ๆ ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้มากยิ่งขึ้น ผ่านรายการ ถ้าเธอเคาะ! เราเต๊าะนะ! เป็นรายการวาไรตี้ออนไลน์ ที่พร้อมเสิร์ฟคอนเทนต์เรื่องราวต่าง ๆ ของแขกรับเชิญ และสอดแทรกข้อมูลต่าง ๆ ของที่อยู่อาศัย โดยมี 2 พิธีกรหนุ่มโสด สลับกันไป พร้อมแขกรับเชิญสาวสวยประจำแต่ละตอน ซึ่งตลอดทั้งรายการจะถ่ายทำขึ้นที่คอนโดมิเนียม หรือบ้านพักอาศัย ภายในโครงการของ ศุภาลัย เพื่อใช้ต้อนรับแขกรับเชิญ และปฏิบัติภารกิจ การแข่งขันพิชิตใจสาวสวย เริ่มตอนแรกที่โครงการศุภาลัย ริวา แกรนด์ คอนโดมิเนียม High Rise ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนพระราม 3 โดยมีการนำเสนอในคอนเซปต์ พื้นที่กว้างกว่า ก็ปลดปล่อยความเป็นคุณได้เต็มพื้นที่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์คนเมือง ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งาน และพื้นที่ใช้สอยให้เป็นประโยชน์ คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย เป็นตัวเองได้ในแบบที่ต้องการ สามารถติดตามรายการ ถ้าเธอเคาะ! เราเต๊าะนะ! ประเดิมตอนแรก หรือ Ep.1 วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ทางช่อง YouTube : Scenario Rachadalai หรือติดตามผ่านช่องทางอื่น ๆได้ที่ เพจถ้าเธอเคาะ เราเต๊าะนะ และช่องทาง IG Tiktok : @Thatherkoh นายไตรเตชะกล่าว

เปิดกอง! Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก รวมดาราแม่เหล็กสายวาย บาส-คิมม่อน-คอปเตอร์ เตรียมปังเลยจ้า!
อ่าน

เปิดกอง! Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก รวมดาราแม่เหล็กสายวาย บาส-คิมม่อน-คอปเตอร์ เตรียมปังเลยจ้า!

ข่าวบันเทิงวันนี้ ถูกใจสายวาย เรียกว่าฟินตั้งแต่เริ่มเปิดกล้อง เป็นกระแสติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกคิวของการถ่ายทำ สำหรับซีรีส์วายฟอร์มยักษ์! "Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก" แห่งค่าย Star Hunter Entertainment (สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) รับประกันฝีมือโดยผู้จัดตัวแม่ต้นตำรับสายวายระดับเอเชีย! "โอ๋ Starhunter" หรือ "โอ๋ ยชญ กรณ์หิรัญ" ออกตัวพร้อมโกยคะแนนนิยมกับแคสติ้งสุดปัง!! ด้วยการรวมดาราแม่เหล็กสายวาย "BKC" บาส สุรเดช , คิมม่อน วโรดม, คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ พร้อมหนุ่มหล่อจากเวที SUPERBOY PROJECT แบงก์ ภณ เจ็ท เฟอร์กี้ แบงค์ โบนัส กาด ตั๋ง จูเนียร์ และนักแสดงหน้าใหม่ ดุล ร่มจำปา , ดานิว กรินทร์, เจมส์ กษม, ISBANKY เสริมทัพนักแสดงรับเชิญมืออาชีพ ร่วมสร้างสีสัน อาทิ เป๊ป ณพสิทธิ์, ตอง ภัครมัย, แหวนแหวน ปวริศา, ดีเจ.มะตูม, ดีเจ.บุ๊กโกะ, ชาย อานันทวีป, ป๊อบ คำเกษม, โยชิ รินรดา, ฟลุ๊ค, ฮาจี้, แบงค์ ธีวรา, เอเจ พร้อมเปิดกองถ่ายซีรีส์ เพื่อต้อนรับสื่อมวลชนร่วมเก็บบรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายทำ ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย "วันนี้เปิดกองถ่ายซีรีส์ Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก ให้พี่ๆ สื่อมวลชนได้เข้ามาเก็บบรรยากาศการถ่ายทำเป็นครั้งแรก ซึ่งฉากมอบเข็มกลัด งานปั้นฝัน ปันรัก จากพี่สู่น้อง ถือเป็นอีกหนึ่งฉากใหญ่ที่รวบรวมนักแสดงนำไว้มากที่สุด โดยซีซั่น 1 คู่หลัก พระเอก-นายเอก ของภาคนี้ คือ คิมม่อน กับ คอปเตอร์ ที่มีฐานแฟนคลับจากจีนซึ่งเป็นตลาดซีรีส์วายที่ใหญ่ และด้วยบทบาทคาแรกเตอร์ที่ได้รับ โอ๋ มั่นใจว่า... แฟนคลับจะได้จิ้นฟินกันตั้งแต่เปิดฉากแรก ด้าน บาส เองก็มีการพัฒนาในเรื่องบทบาทที่โตขึ้น จะมีความดราม่า รับประกันว่านี่คืออีกหนึ่งสเต็ปที่เป็นบททดสอบทางด้านการแสดงของบาส สำหรับหนุ่มๆ จาก Superboy Project ก็สามารถทำได้ดี เพราะก่อนหน้านี้เด็ก ๆ บางคนได้มีโอกาสร่วมแสดง Music Short Film กับซีรีส์ชุด The Moment ที่เราทำไปแล้ว 2 ซีซั่น แสดงโดย แบงก์ ภณ เจ็ท ซึ่งผลตอบรับก็น่าพอใจครับ และเรายังปั้นเด็กใหม่อย่าง ดุล ร่มจำปา, ดานิว, เจมส์ กษม, ISBANKY ที่จะมาสร้างสีสัน ให้คนดูได้ลุ้นตลอดทุกตอนเช่นกันครับ ส่วนนักแสดงรับเชิญ เราก็ได้นักแสดงคุณภาพที่คุ้นเคย อย่าง พี่เป๊ป ณพสิทธิ์, ตอง ภัครมัย, แหวนแหวน, ดีเจ.มะตูม, ดีเจ.บุ๊กโกะ, ชาย อานันทวีป, ป๊อบ คำเกษม พร้อมแก๊งนางฟ้า โยชิ รินรดา, ฟลุ๊ค, ฮาจี้ ที่สนุก ฮา ครบรสแน่นอน! โดยตลอด 3 ซีซัน คนดูจะทายไม่ถูกว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร สมกับชื่อ Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก แอบกระซิบบอกว่า... ตอนจบของซีซันที่ 1 โอ๋ จะให้แฟน ๆ ซีรีส์ มีส่วนร่วมในการร่วมโหวตตอนจบ ว่าแฟน ๆ อยากจะให้จบอย่างไร ซึ่งมันจะมีผลต่อการเขียนบทของซีซันที่ 2 ด้วยครับ เรียกว่าพลาดกันไม่ได้เลยซักตอนครับ" โยชิ บาส คอปเตอร์ คิมม่อน เตรียมพบกับการเปิดตัว Gen Y The Series วัยรุ่นวุ่นYรัก ในเดือนตุลาคม พร้อมเซอร์ไพรส์เปิดผังออกอากาศอย่างยิ่งใหญ่!! โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ Star Hunter Entertainment ได้ทาง IG : @starhunter_entertainment ; Facebook Fanpage : https://web.facebook.com/starhunterstudio/ ; Twitter : @starhunter_ent #Starhunterentertainment #GenYTheSeries #วัยรุ่นวุ่นวายรัก #SBFIVE #Superboy ตอง ภัครมัย ดีเจมะตูม แหวนแหวน ปวริศา คอปเตอร์ คิมม่อน บาส โอ๋ คอปเตอร์ คิมม่อน

เปิดตัว Honor 100: รุ่นแรกที่ได้ใช้ Snapdragon 7 Gen 3, รุ่น Pro ได้ใช้ Snapdragon 8 Gen 2
อ่าน

เปิดตัว Honor 100: รุ่นแรกที่ได้ใช้ Snapdragon 7 Gen 3, รุ่น Pro ได้ใช้ Snapdragon 8 Gen 2

Honor ได้ปิดอีเวนต์นวัตกรรมด้วยการประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ซีรีส์ 100 ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Honor 100 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ได้รับการติดตั้งชิปเซตระดับกลางรุ่นใหม่ของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 7 Gen 3 และ Honor 100 Pro ที่ได้รับการติดตั้งชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 โดยทั้ง 2 รุ่น รองรับเทคโนโลยีชาร์จไฟไว 100 W และชิป RF ที่ได้รับการปรับแต่งประสิทธิภาพเองอย่าง C1 ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อเครือข่ายและการโทรออกดีขึ้นแม้ว่าจะอยู่ในาภาพแวดล้อมที่ยากลำบากก็ตาม Honor 100 Honor 100 มาพร้อบอดีบางเพียง 7.8 มม. โดยมีหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1220p และติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ ในขณะที่ชิปเซต Snapdragon 7 Gen 3 นั้น มาพร้อมแกนซีพียู Cortex-A715 สำหรับประมวลผลศักยภาพสูงสุดถึง 3.15 GHz จำนวน 1 คอร์, แกนซีพียูความเร็ว 2.4 GHz จำนวน 3 คอร์ และแกน Cortex-A510 ประหยัดพลังงาน ความเร็ว 1.8 GHz อีก 4 คอร์ Honor 100 ยังมีสเปกที่น่าสนใจ ดังนี้ กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ Sony IMX906, f/1.95, OIS) + 12 ล้านพิกเซล (Ultrawide, มุมกว้าง 112 องศา) กล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล (f/2.1) แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการเชื่อมต่อ NFC ระบบเสียง Honor Histen ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 13 Honor 100 มีราคาเริ่มต้นที่ 2,499 หยวน (ประมาณ 12,600 บาท) สำหรับความจุ 12/256 GB โดยวางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Honor China ของประเทศจีนแล้ววันนี้ Honor 100 Pro Honor 100 Pro มีหน้าจอ OLED ใหญ่ขึ้นเป็น 6.78 นิ้ว พร้อมซีพียูศักยภาพสูงขึ้นอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 โดยยังคงใช้กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultrawide 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่เพิ่มกล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่รองรับการซูมดิจิทัลถึง 50x Honor 100 Pro ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุเท่ากับรุ่นมาตรฐาน และเพิ่มการองรับการชาร์จไฟไร้สาย 66 W ที่สามารถชาร์จจาก 0 – 100% ใน 42 นาที และช่องระบายคาวมร้อนขนาด 4,674 ตารางมิลลิเมตร สมาร์ตโฟนดังกล่วยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3, Wi-Fi 6, ชิป C1 ใหม่ และซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ MagicOS 7.2 Honor 100 Pro ยังมาพร้อมเวอร์ชันที่ด้านหลังผลิตด้วยวัสดุหนังเทียม ให้ความรู้สึกหรูหรา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3,399 หยวน (ประมาณ 17,200 บาท) สำหรับความจุ 12/256 GB ไปจนถึง 4,399 หยวน (ประมาณ 22,200 บาท) สำหรับความจุ 16 GB/ 1 TB ที่มา : GSMArena

5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย
อ่าน

5 Series Y สุดจิ้น ฟินกระจาย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Series Y และผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่โลกของ Y พลาดไม่ได้กับ 5 เรื่องเด็ดที่จะสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ บางครั้งอาจมีเสียน้ำตาแต่สุดท้ายจะจบลงด้วยความอิ่มเอมใจ ผู้อ่านที่รักคะ … ห้ามพลาดเลยค่ะ บอกได้แค่นี้ 😊1.    เพราะเราคู่กัน (2gether The Series)บอกได้เลยว่าสำหรับเรื่องนี้นั้น สร้างความจิ้น ฟินกระจายไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้นแต่ดังไกลถึงต่างแดน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในทุกสัปดาห์ ความลงตัวของเรื่องนี้เกิดจากหลายๆองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบทนิยายที่เขียนโดย ”JittiRian” ซึ่งมีฐานแฟนนิยายที่ค่อนข้างเหนียวแน่น base ของเรื่องนี้มีความโดดเด่นจากการนำบทเพลงของวง Scrubb มาเป็นเส้นเรื่อง ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ได้ดี เมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์มีการปรับบทที่สร้างความกลมกล่อมเพิ่มความดึงดูดให้กับเรื่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเคมีที่ลงตัวของเหล่าบรรดานักแสดงโดยเฉพาะคู่หลักที่แคสคาแรคเตอร์มาได้ตรงกับบทที่สุด ไม่ว่าจะเป็น”ไบร์ท” ที่ต้องสวมบท “สารวัตร” ที่มีความนิ่ง เท่ เป็นทั้งนักบอลและเล่นดนตรี น่าจะเป็นคาแรคเตอร์หนุ่มๆที่ใครๆก็นึกถึง สำหรับไทน์มีความซนๆแต่แฝงไปด้วยความน่ารัก อ่อนโยน ซึ่งทั้งคู่เล่นได้สมบทบาทจนผู้ชมเชื่อและอินขั้นสุด ถึงกับว่าในบาง EP. ตัวเอกของเรื่องเกือบแย่กันเลยทีเดียว (โดนถล่มในสื่อออนไลน์ไม่น้อยเลย) เสน่ห์ของเรื่องนี้อีกอย่างคือการอิมโพรไวด์ของบรรดานักแสดงไม่ว่าจะเป็นตัวหลักหรือนักแสดงร่วมทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติน่าติดตามมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากความดังนี้ก็ส่งผลให้ 2 หนุ่มนักแสดงนำของเรื่อง “ไบร์ท-วิน” ทะยานขึ้น Top Chart และเป็นที่ต้องการตัวของหลายๆผลิตภัณฑ์กันเลยทีเดียวเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่กันแล้วงานนี้ ... และหากถามถึงบทสรุปของเรื่องนี้นั้น ขอบอกว่า ความคลั่งรักและพรหมลิขิตมันได้ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุดแล้ว และสำหรับเรื่องนี้นั้นยังมีภาคต่อกันให้ฟินทั้งในส่วนของซีรีส์และภาพยนตร์กันด้วย ควรค่าแก่การติดตามที่สุดhttps://youtu.be/1ufpSqkv-nI2.    ปลาบนฟ้า (Fish upon the sky)ขอต่อกันที่บทประพันธ์ของ “JittiRian” อีกสักเรื่อง ต้องบอกว่าผลงานของนักเขียนท่านนี้จะมีลักษณะที่เป็นฟีลกู้ด อ่านแล้วทำให้ยิ้มและมีความสุขได้ไม่ยาก สำหรับเรื่องนี้ได้กล่าวถึงการแอบรักที่คิดว่าเอื้อมไม่ถึง เป็นไปไม่ได้ เปรียบเสมือนปลาที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็สอดแทรกถึงเรื่องการเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญในการยอมรับคุณค่าของตนเอง รวมถึงความผูกพันของสายสัมพันธ์ในครอบครัว และยังมีการหยิบจับประเด็นการคุกคาม การละเมิดสิทธิของบุคคลที่ควรตระหนักถึงของคนในสังคมอีกด้วย สำหรับในส่วนของตัวซีรีส์ทางผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงแต่เข้าถึงได้ง่าย เรื่องนี้นอกจากเส้นเรื่องที่ว่าด้วยการแอบรัก (ซึ่งหลายๆคนคงเคยมีชุดประสบการณ์เหล่านี้อยู่บ้างทำให้เข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยาก) ความโดดเด่นที่น่าจับตาไม่แพ้กันนั้นคือจังหวะโบ๊ะบ๊ะของเรื่องที่ทำออกมาได้ดี สนุกและน่าติดตาม ต้องบอกว่าหัวเราะจนแทบกลั้นหายใจกันเลย สำหรับนักแสดงทั้งคู่หลักและคู่รองมีความเคมีที่เข้ากันได้ดี พระเอกของเรื่อง “ปอนด์” ถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่แต่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาคนคลั่งรักในบทของ ”หมอก” จนทำให้เชื่อได้ เรียกว่าหลายๆคนโดยตกก็ตรงนี้ ส่วนนายเอกนั้นรับบทโดย “ภูวินทร์” เล่นบท “ปี” ได้อย่างน่ารักน่าหยิกเพราะเล่นกันแบบไม่ห่วงหล่อกันเลย อีกบทที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เพราะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระเอก-นายเอก คือ บท “เมืองน่าน” ที่ต้องยอมใจคนแคสเลย แคสได้เหมาะกับคาแรคเตอร์มาก เพราะ “มิกซ์” มีความลงตัวทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกได้ว่าเขาเป็นปลาบนฟ้าได้จริง ไม่แปลกใจที่ตัวเอกของเรื่องจะแอบรัก ถ้าหากจะให้นิยามถึงเรื่องนี้นอกจากเรื่องความคลั่งรักก็เห็นจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง การยอมรับในตัวตนของตนเองและมีความสุขไปกับมัน … แนะนำย้ำเลยว่าดูเถอะ คุณจะมีความสุขกับเรื่องนี้จริงๆhttps://youtu.be/6p22a14oj_03.    เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซ่ะดีๆ (TharnType The Series)ซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากเรื่องบังเอิญรัก สร้างมาจากนิยายดังบนเว็บไซต์ Dek-D.com ของนักเขียน “MAME” บทเริ่มจากความเกลียดสุดขั้วของนายเอก”ไทป์” (รับบทโดยกลัฟ) ที่มีต่อ “ธาร” (รับบทโดยมิว) พระเอกของเรื่อง นายเอกจะมีลักษณะที่เป็นคนแมนๆเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ชอบเกย์และต้องมาอยู่ร่วมห้องกับ  รูมเมทที่เป็นเกย์จึงรู้สึกต่อต้านและพยายามที่จะทำทุกทางให้พระเอกของเรื่องย้ายออกจากห้องไปแต่กลับกลายเป็นว่าทุกการกระทำกลับสร้างความสัมพันธ์ให้ก่อเกิดขึ้น ทั้งนี้บทยังกล่าวถึงปมที่เป็นประเด็นของตัวละครหลักทั้งคู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดแทรกเรื่องราวที่เป็นปัญหาทางสังคมที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับความโดดเด่นของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องคาแรคเตอร์แมนๆของนายเอกที่มักไม่ค่อยได้พบแล้ว ฉากเลิฟซีนที่ฟินจิกหมอนกันนั้น ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างแซบ เผ็ด ดุเดือดกันพอประมาณเลยทีเดียว นักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาได้ถึงอารมณ์ เรื่องนี้มีความครบรส และสำหรับความนิยมของเรื่องนี้นั้น บอกได้เลยว่าทั้งในไทยและต่างประเทศขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์กันตลอด ส่งผลให้ทั้งสองนักแสดงนำกลายเป็นคู่จิ้นแห่งปีในหลายรายการ ... นิยามสั้นๆสำหรับเรื่องนี้ “เกลียดอะไรได้อย่างนั้น”https://youtu.be/BeFFEICnz2A4.    นิทานพันดาว (1000 Stars)สำหรับเรื่องนี้นั้นสร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียน Bacteria ต้องบอกว่ามีฐานแฟนคลับที่คอยติดตามเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยเนื้อเรื่องในนิยายทั้งแก่นของเรื่องที่น่าติดตามและภาษาที่ใช้สวยงามเข้าใจง่าย บทที่เริ่มจากตัวนายเอก (รับบทโดยมิกซ์) ที่ใช้ชีวิตลูกคนรวยแบบไม่เห็นคุณค่าเพราะรู้ว่าตัวเองใกล้จะตายจากโรคหัวใจที่เป็นอยู่ วันหนึ่งได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่และเริ่มหาความหมายของชีวิตโดยยอมลำบากขึ้นไปเป็นครูบนดอยและได้พบพระเอก (รับบทโดยเอิร์ท) เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาดูแลนายเอกจนก่อเกิดความสัมพันธ์อันดีและนำมาซึ่งเรื่องราวต่างๆ ความโดดเด่นของเรื่องนี้คงต้องบอกว่า บทบาทที่นักแสดงหลักของเรื่องถ่ายทอดผ่านทางสายตาและท่าทางนั้นแสดงออกมาได้ดีมีความเป็นธรรมชาติ เคมีเข้ากัน (หลายฉากที่จะตกหลุมรักทั้งนายเอกและพระเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว) นอกจากนี้แล้วนักแสดงสบทบต่างก็แสดงเป็นธรรมชาติสูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือภาพที่ตัดต่อออกมาสวยงาม ธรรมชาติ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวผาปันดาวกันเลยทีเดียว (ในเรื่องถ่ายทำที่ จ.เชียงราย)  สำหรับเรื่องนี้นอกจากมีความโรแมนติกทั้งเรื่องบทและภาพแล้ว ยังสอดแทรกประเด็นอิทธิพลของผู้มีอำนาจและความเหลื่อมล้ำของสังคมให้ได้ตระหนักกันด้วย ... และหากจะหาบทสรุปของเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องการหาความหมายของชีวิตและอยู่กับมันอย่างมีความสุขhttps://youtu.be/rqifRDavfcA5.    ปรมาจารย์ลัทธิมาร (The Untamed)ขอแนะนำข้ามฝั่งมาที่จีนสักหน่อย คงต้องบอกว่าเรื่องนี้นั้นดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้ สำหรับซีรีส์จีนกำลังภายในที่มีคำนิยามว่า “ซีรีส์มิตรภาพลูกผู้ชาย” เป็นบทประพันธ์ของ โม่เซียงถงซิ่ว นำแสดงโดย เซียวจ้าน และ หวัง อี้ป๋อ โดยเรื่องราวกล่าวถึงการผจญภัยของ 2 ตัวละครเอก เว่ยอู๋เซียน และ หลานวั่งจี ที่ฝึกฝนวิทยายุทธ์ตั้งแต่วัยเยาว์โดยตั้งปณิธานจะปราบเหล่ามารให้หมดไปจากยุทธภพ เรื่องราวมีจุดหักเหจนทำให้สองสหายเหมือนยืนกันคนละฝั่ง แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินเรื่องกลับมีหลายปมซ้อนอยู่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ ประกอบกับเหล่าตัวนักแสดงหลักถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้น่าติดตามในทุกตอน (มี 50 EP) คุณอาจจะตกหลุมรักความน่ารักของเว่ยอู๋เซียน และไม่สามารถละสายตาจากความนิ่งๆ เท่ๆ ของหลานวั่งจีได้ ทั้งนี้ต้องบอกว่าเลยว่าถ้าจะถามหาฉากเลิฟซีนนั้นคงยาก (ก็มิตรภาพลูกผู้ชาย) แต่ถ้าถามถึงความฟินนั้นมีแบบจุกๆ ครบรสมากเรื่องนี้ สนุกและลุ้นไปจนจบกันเลยทีเดียว พลาดไม่ได้ ... หากจะต้องหานิยามของเรื่องนี้คงเป็นเรื่องความซื่อตรงต่อความรู้สึกและความเชื่อมั่นในการทำความดีhttps://youtu.be/9BVGF8CqejMเครดิตภาพ: ปกโดยผู้เขียนอ้างอิงวิดีโอประกอบบทความ :วิดีโอที่ 1 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 2 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 3 MeMindY / youtubeวิดีโอที่ 4 GMMTV / youtubeวิดีโอที่ 5 WeTV Thailand / youtube จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !

รีวิว เล่นแร่แปรวิญญาณ ภาค 2 | Alchemy of Souls Season 2  ความแตกต่างระหว่าง season 1 กับ season 2
อ่าน

รีวิว เล่นแร่แปรวิญญาณ ภาค 2 | Alchemy of Souls Season 2 ความแตกต่างระหว่าง season 1 กับ season 2

    กลับมาอีกครั้งในซีรีส์เล่นแร่แปรวิญญาณ  ภาค 2 | Alchemy of Souls Season 2 หลังจากที่หลายคนอาจจะกำลังตั้งตารอ season 2 มานาน เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีย้อนยุคที่จะพาทุกคนร่ายเวทมนต์ไปพร้อมกับกองทัพนักแสดงอีแจอุค ,โกยุนจอง ,ฮวังมินฮยอน ,ชินซึงโฮ ,ยูอินซู และชเวเยวอนหรืออาริน  https://pbs.twimg.com/media/FiuY635UUAMtDro?format=jpgname=large เรื่องย่อ เรื่องราวสานต่อจาก season 1 หลังจาก 3 ปีต่อมา ณ อาณาจักรแดโฮ จางอุก (รับบทโดย อีแจอุค) จากการเสียชีวิตด้วยการถูกดาบของนักซูปักที่กลางหัวใจของเขา เขาได้ฟื้นคืนชีพด้วยพลังของหินน้ำแข็ง เเละได้กลับกลายมาเป็นนักล่าผู้แปรวิญญาณอย่างเต็มรูปแบบ ผู้แข็งแกร่งที่สุด เขาได้ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายไปกับการตามล่าวิญญาณ จนได้มาพบกับจินบูยอน (รับบทโดย โกยุนจอง) สาวสวยที่มีหน้าตาเหมือนกับนักซูนักฆ่าสาวมือฉมัง จินบูยอนเป็นบุตรสาวผู้งดงามแห่งตระกูลจินที่ฟื้นคืนชีพ เธอถูกคุมขังในสำนักจินและถูกบังคับให้แต่งงานกับตระกูลซอ จินบูยอนจึงคิดหาวิธีจากที่คุมขังตระกูลจิน เมื่อเธอได้พบกับจางอุกและรู้ว่าเขาคือนักล่าแปรวิญญาณผู้แข็งแกร่งจึงขอให้จางอุกพาเธอหนีไป ในขณะเดียวกันที่จางอุกก็ได้รู้ว่าจินบูยอนสามารถมาเห็นหินน้ำแข็งในตัวเขาได้ จึงตัดสินใจพาเธอหนีไปด้วย เพื่อที่จะให้จินบูยอนใช้พลังของเธอในการดึงกินน้ำแข็งออกจากหัวใจเขา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องตามไปรอลุ้นกันในซีรีส์ต่อนะคะ  https://pbs.twimg.com/media/Fjq1s49VUAABnKs?format=jpgname=large https://pbs.twimg.com/media/FjgjWEDacAAzVhp?format=jpgname=large      ตัวละครในภาค 2 มีความแข็งแกร่งมากขึ้นจากในภาคแรก ตัวละครเอกอย่างจางอุก (รับบทโดย อีแจอุค) นายน้อยแห่งตระกูลจากซึ่งในภาคแรกจะเห็นได้เลยว่าเป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์สดใส ก๊องแก๊ง และเป็นตัวป่วน และยังมีฝีมือในการเป็นนักล่าแปรวิญญาณที่ยังไม่ค่อยเก่งนัก แต่พอมาในภาค 2 คาแรคเตอร์ที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากนายน้อยตัวแสบ ด้วยการเติบโตมาพร้อมกับบาดแผล และการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว จนทำให้เขากลายมาเป็นนักล่าปีศาจผู้แกร่งแข็ง ด้วยคาแรคเตอร์ของอีแจอุคที่ให้อยู่แล้ว มาเล่นบทบาทจางอุกในภาค 2 ยิ่งดีและกร้าวใจไปอีก  https://pbs.twimg.com/media/Fjbs3Z0aUAEOh4r?format=jpgname=largeส่วนในภาค 2 ที่หลายคนที่ตกหลุมรักตัวละครมูด็อก(รับบทโดย จองโซมิน) และตั้งตารอเจอในภาค 2 แต่กลับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เธอจะไม่ปรากฏตัวให้เราได้เห็น ซึ่งมูด็อกเป็นร่างของนักซู เพราะมูด็อกก็คือหญิงสาวตาบอดผู้อ่อนแอ และมีวิญญาณนักซูนักฆ่าสาวผู้แกร่งแข็งมาติดอยู่ในร่าง เพื่อให้ให้สับสนกับการเปลี่ยนตัวละครเอก ก็คือจริงๆตัวเอกก็คือนักซูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่แม้ว่าจะเปลี่ยนยังไงมูด็อกก็คือตัวละครที่สดใสในใจเสมอ โกยุนจอง ที่มาเป็นบทเป็น จินบูยอน หรือ นักซู คือสวยสะกดทุกสายตามาก ซึ่งตัวละครนี้จะมาเป็นปริศนาในเรื่องอีกครั้ง เพราะการฟื้นคืนชีพของหญิงสาวที่มีนามว่าจินบูยอน กลับมาหน้าตาเหมือนนักซูอย่างกับแกะ แต่เธอดันมีพลังที่เหมือนกันบุตรสาวของโตของตระกูลจิน   https://pbs.twimg.com/media/FhkDBb-agAACmYC?format=jpgname=largeส่วน ซอยุล (รับบทโดย ฮวังมินฮยอน) บุตรชายจากตระกูลซอ ผู้ที่สมบูรณ์แบบทั้งหน้าตา และฝีมือ เขามาพร้อมกับความเพรียบพร้อมทุกอย่างทั้งฐานะ หน้าตา ความรู้ความสามารถ เป็นชายหนุ่มที่มีความทรงจำในวัยเด็กกับการตกหลุมรักหญิงงามนางหนึ่งในใจเสมอ เขาได้กลับมาอีกครั้ง ความแตกต่างไม่ค่อยเยอะมากตั้งแต่ภาคแรก จนถึงภาค 2 เป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์นิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิง แต่ก็ต้องรอดูว่าจะมีอะไรพีคๆมาให้คนดูตื่นตาตื่นใจหรือปล่าว https://pbs.twimg.com/media/Fja_7uaakAIFQ1x?format=jpgname=largeโกวอน (รับบทโดย ชินซึงโฮ) เขาคือองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรแดโฮ เป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ดิ้นรน เพื่อการเป็นกษัตริย์อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็นบ่อยนัก เเต่เป็นตัวละครที่น่าสนใจ และน่าดึงดูดสุดๆ ใครที่ดูเป็นต้องตกหลุมรักองค์รัชทายาทรูปงามผู้นี้เป็นแน่  https://pbs.twimg.com/media/Fi7_2MragAAuNkn?format=jpgname=largeเปิดเรื่องมาในภาคที่2 ตัวละครที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่มากขึ้น จินโซยอน (รับบทโดย อาริน) บุตรสาวคนเล็กแห่งตระกูลจิน เป็นสาวรูปงามที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อม จากภาคแรกเธอคือคู่หมั้นคู่หมายของจางอุก และหญิงผู้เรียบร้อย แต่หลังจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นบาดแผลในใจเธอไปตลอดกาล จึงให้เธอกลายเป็นคนใหม่ที่มีจิตใจที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จากปมภาคแรกของตัวละครจินโซยอนค่อนข้าง เปิดปมเรื่องมาเป็นอย่างดี พอเปิดมาอีพีแรกในภาค 2 เห็นได้ชัดเลยว่าตัวละครนี้ได้เติบโตมาพร้อมกับความแค้นและการคับเคืองใจ จนกลายมาเป็นหญิงสาวผู้เย็นชาในที่สุด  https://pbs.twimg.com/media/FjLW48VaAAIO-6G?format=jpgname=large ตามมาด้วย พัคดังกู (รับบทโดย ยูอินซู) บุตรชายแห่งตระกูลพัค เดิมทีที่เป็นคนที่ค่อนข้างไม่เอาไหน และจะสนใจเรื่องอย่างอื่นมากกว่าเรื่องของตระกูลตนเอง จนได้จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลซงริม ในภาค 2 พัคดังกูเองก็เติบโตมากับความรู้สึกผิด และความเจ็บปวดในใจเช่นกัน เขากลายเป็นคนใหม่ จะโหยหารักที่ล่มสลายไปเมื่อสามปีก่อน คาแรคเตอร์ของตัวละครนี้แม้จะมีความใกล้เคียงกับภาคแรก แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเขาได้เติบโตและเป็นคนใหม่มากขึ้น  https://pbs.twimg.com/media/FjLW48VaYAAUd3X?format=jpgname=large  ตัวอย่างซีรีส์https://youtu.be/1pbil-z1po8  ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดูต้องบอกเลยว่าตัวละครในภาค 2 นั้น ให้ความเข็มข้นมากยิ่งขึ้นกว่าภาคแรก ในภาค 2 นี้ มากับความสนุกคูณ 2 เข้าไปอีก จากภาคแรกที่ทิ้งปมไว้ร้อยแปดพันเก้า แต่ถึงกระนั้นปมที่ทิ้งไว้ในภาคแรกก็ยังคงไม่ถูกคลี่คลาย พอมาในภาค 2 ปมจากภาคแรกที่ยังคงเหมือนเดิมและไม่ถูกอธิบายเพิ่มเติม ก็ทับถมปมใหม่ขึ้นมาอีกครั้งในภาค 2 เรียกได้ว่าทำให้คนดูไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนกันเลยทีเดียว ตั้งมานั่งสงสัยมาทำไม ทำไม กัน ซีรีส์เรื่องนี้ปมเยอะมากกกก แต่ที่หวังไว้ในภาค 2 ก็คือคลี่คลายปมทุกอย่างก่อนจบอวสานเถอะ แถมปมจากภาคแรกก็ขุดขึ้นมาคลี่คลายให้ด้วย วอนผู้กำกับ แต่ในภาคนี้ก็คือจะเง้มปมหลักๆของจางอุกและนักซูมาให้ได้ขมกัน วิธีการดำเนินซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างมีความซับซ้อน ซึ่งเนื่องด้วยซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวแฟนตาซีด้วย หากใครที่ไม่เคยดู หรือไม่ได้รู้เรื่องราวของเรื่องมาแล้ว เกรงว่าจะไม่เข้าใจ บอกเลยว่าเรื่องนี้สนุกมากและไม่อาจมูฟออนได้ง่ายๆอย่างแน่นอน ระหว่างรอภาค 2 จนต้องกลับไปดูภาคแรกใหม่ เปิดเรื่องมาในอีพีแรกของภาค 2 ถือว่าเปิดตัวมาดีมาก เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นว่าตัวละครเหล่านั้นได้เติบโตขึ้นแล้วจริงๆ และความเข้มข้นก็กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ  https://pbs.twimg.com/media/FjLW48TaEAE7yl8?format=jpgname=largehttps://pbs.twimg.com/media/FjLW48QacAA2mPS?format=jpgname=largeตัวละครที่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สุดจากภาคแรกก็จะเป็นจางอุก (รับบทโดย อีแจอุค) สลัดคราบนายน้อยจอมแสบจากภาคแรกได้อย่างหมดจด เป็นนายน้อยผู้ชี้ชะตานักเล่นแร่แปรวิญญาณ กับคาแรคเตอร์ที่เปลี่ยนไปเป็นชายผู้เย็นชา สุขุม และนิ่งเงียบ และความแปลกใหม่ในภาค 2 ก็คือเราจะเห็นจินบูยอน หรือ นักซู (รับบทโดย โกยุนจอง) มากขึ้น หรือในภาคก่อนจะปรากฏตัวให้เราเพียงเล็กน้อย แต่พอมาในภาค 2 นี้ ก็จะปรากฏตัวให้เราเห็นมากขึ้น เธอมาพร้อมกับปมต่างๆที่ชวนให้คิดไม่หยุด ต้องรอติดตามกันต่อไป ส่วนตัวละครจินโซยอน (รับบทโดย อาริน) จากการสูญเสียพ่ออันเป็นสุดที่รักไป ทำให้เธอกลับมาพร้อมกับความแค้น พัคดังกู (รับบทโดย ยูอินซู) เขาสลัดคราบนายน้อยผู้ไม่เอาไหน อย่างหมดจด และกลับกลายมาเป็นคนใหม่ที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดในใจเช่นกัน ความเข้มข้นและดุเดือดนี้ เป็นจุดประกายสำคัญของภาค 2 ที่จะเสิร์ฟต่อคนดู ให้ได้ชมความสนุกแบบคูณ 2 กัน จากที่ดูสองอีพีแรกในภาค 2 สัมผัสได้ถึงภาพโทนสี แสง CG และคาแรคเตอร์ของตัวละครที่เปลี่ยนไป เพราะตัวละครทุกตัวเติบโตขึ้นจากความเจ็บปวดภายในใจที่แตกต่างกัน การกลับมาครั้งนี้กับซีรีส์เรื่องนี้การันตีความเข้มข้นที่จะเสิร์ฟให้ทุกท่านสนุกแบบจุกๆ ส่วนตัวที่ว่าในภาคแรกจะให้ความสดใสและคอมเมดี้มากกว่าในภาคที่สอง เพราะภาคนี้จะมีความDark เข้ามาด้วยมากยิ่งกว่า แถมตัวละครก็มาพร้อมกับความแค้นและความดุเดือดยิ่งกว่าหลังจากการเติบโตที่ผ่านไป 3 ปี เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามชมต่อในซีรีส์นะคะ  ซีรีส์มี 10 ตอน สามารถรับชมซับไทยได้ที่ Netflix  https://pbs.twimg.com/media/FjXnfhkVsAAMauF?format=jpgname=large  https://pbs.twimg.com/media/FhSrpViUYAUK114?format=jpgname=largeเครดิตภาพจาก Twitter official :  tvN dramaภาพหน้าปก จาก Twitter official : Netflixth| ภาพประกอบที่1 /ที่2 /ที่3 /ที่4 /ที่5 /ที่6 /ที่7 /ที่8 /ที่9 /ที่10 /ที่11 /ที่12 /ที่13 วีดีโอที่1 จาก YouTube : Netflix Thailand เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!

5 Series Y ที่คุณไม่ควรพลาด
อ่าน

5 Series Y ที่คุณไม่ควรพลาด

สวัสดีวันนี้แสงแดดจะมาแนะนำ 5ซีรีส์วายที่คุณควรไปดู     ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ซีรีส์วายมาแรงมาก!! ผู้คนหันมาเปิดใจดูซีรีส์วายมากขึ้น จนหลายๆคนกลายเป็นสาววายหรือแฟนบอย คงเป็นเพราะหน้าตาหรือการแสดงของนักแสดงที่ทำให้หลายๆคนหลงใหล และซีรีส์จะมาพร้อมคู่จิ้นที่เคมีเข้ากันมากๆ ทำให้ทุกคนจิ้นฟินกระจายจนหมอนขาดได้เลย และวันนี้แสงแดดขอแนะนำซีรีส์วาย ที่มีความปัง มาให้ทุกคนได้ไปดู 1.เลิฟซิคเดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ (Love Sick: The Series)     นำเสนอเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่นของนักเรียนมัธยม ซึ่งคล้ายกับละครซีรีส์วัยรุ่นทั่วไป แต่ลักษณะเด่นตัวเอกของเรื่องเป็นผู้ชาย แบบที่ผู้ชายก็รักผู้ชายได้ตัวละครเอกที่สับสนงุนงงกับความรู้สึกของตนที่มีต่อเพื่อนสนิท นำแสดงโดย"ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" รับบท "ปุณณ์" และ "กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง" รับบท "โน่"ติดตามชมย้อนหลังได้ในLINETV หรือ NETFLIX      สถานะ:จบบริบูรณ์ มี2Season (ss1มี12ep) (ss2มี36ep)ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอยากมากในพ.ศ.2557และ2558บอกเลยว่าถ้าคุณดูคุณจะนึกถึงบรรยากาศชีวิตช่วงวัยรุ่นมากๆ ใครที่เคยชอบเพื่อนสนิทเนี่ย ต้องดูนะ เรื่องนี้แสงแดดชอบมากๆ ดูหลายรอบเลย 2.SOTUS The Series พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง     เป็นซีรีส์ที่สร้างจากนิยาย SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง โดย BitterSweet ซึ่งโด่งดังในเว็บ เด็กดี.คอม เป็นเรื่องราวของระบบการรับน้องที่เรียกว่าโซตัส ที่ทำให้ทั้ง2มาเจอกันในที่ประชุมเชียร์ และเกิดเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เค้าทั้งสองคนรักกันนำแสดงโดย "คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์ " รับบท "พี่อาทิตย์ " และ "สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์" รับบท "ก้องภพ"ติดตามชมย้อนหลังได้ในLINETV หรือ NETFLIXสถานะ:จบบริบูรณ์ มี2Season(ss1มี16ep)(ss2มี13ep)ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอยากมากในพ.ศ.2559-2562บอกเลยว่าถ้าคุณดูคุณจะได้รับความรู้สึกถึงมิตรภาพในมหาลัย  ใครที่ชอบกิจกรรมรับน้องหรือการแอบชอบรุ่นพี่ ต้องดูนะ  เป็นซีรีส์เรื่องแรกที่แสงแดดดูเลยนะ3.บังเอิญรัก Love By Chance     เรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในรั้วมหาลัยที่มี  เอ้  นักฟุตบอลหนุ่ม และ พีช หนุ่มลูกคุณหนู ผู้น่ารัก ที่บังเอิญมาพบกัน และทำให้เอ้ได้ช่วยเหลือพีชไว้หลายครั้ง จึงทำให้พีชมีใจให้กับเอ้ และพีชเลือกที่จะบอกความรู้สึกดีที่ดีให้กับเอ้ และหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเอ้และพีทก็ใกล้ชิดกันมากขึ้น จนเขาทั้งสองคนเป็นแฟนกันและยังมีเรื่องราวต่างมากมายอีก  นักแสดง  "เอ้" รับบทโดย "เพิร์ธ-ธนพนธ์ สุขุมพันธนาสาร"  และ  "พีช"  รับบทโดย"เซ้นต์-ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา"ติดตามชมย้อนหลังได้ในLINETV  สถานะ: จบบริบูรณ์ (14ep) และกำลังทำSeason2   ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอยากมากในพ.ศ.2561-2562บอกเลยว่าถ้าคุณชอบการดูแลเอาใจใส่คอยช่วยเหลือคุณ ปลอบใจคุณ ต้องดูนะ   เรื่องนี้น่ารักมากๆเลยนะ4.TharnType The Seriesเกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ     เป็นซีรีส์ต่อเรื่อง บังเอิญรัก Love By Chance เขียนโดยนักเขียนชื่อดัง MAME เป็นเหตุการณ์ของไทป์ เป็นนักศึกษาปี1 ที่มีความหลังฝั่งใจคือการเกลียดเกย์ แต่ต้องมาเจอรูมเมตอย่าง ธาร ที่ไทป์ไม่รู้เลยว่าธารเป็นเกย์ จนกระทั่ง เทคโนเพื่อนของไทป์ได้บอกไทป์ว่า ธารเป็นเกย์ ทำให้ไทป์คิดหาสารพัดวิธีไล่ธารออกจากห้อง และยืนยันว่าจะไม่ขออยู่ร่วมห้องกับเกย์เด็ดขาด สุดท้ายธารจะเปลี่ยนความเกลียดของไทป์ให้กลายเป็นความรักได้ยังไงต้องไปติดตามนะ "ไทป์ (ทิวัตถ์)" รับบท "กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ " และ "ธาร (ธารา)" รับบท "มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์"ติดตามชมย้อนหลังได้ในLINETVสถานะ: จบบริบูรณ์ (12ep)และกำลังทำSeason2ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอยากมากในปลายพ.ศ 2562-2563บอกเลยว่าถ้าคุณชอบการดูแลเอาใจใส่หรือการจะเอาชนะใจคนที่ชอบคุณต้องดูนะ  เรื่องนี้ฟินมาก หมอนขาดได้เลยนะ5.เพราะเราคู่กัน 2gether The Series     ซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่า มีเค้าโครงมาจากนิยาย เพราะเราคู่กัน ของ JittiRain  ที่โด่งดังมากๆเป็นเรื่องราววุ่นวายของ "ไทน์" คนชิค ๆ ที่ฝันจะเจอรักแท้ในรั้วมหาลัย แต่กลับต้องมาเจอ กรีน ตุ๊ดหนุ่มหน้าหล่อจอมตื๊อที่ทั้งดื้อและด้าน แม้จะโดนปฏิเสธแค่ไหน กรีนก็ไม่ยอมตัดใจ จนไทน์ต้องไปขอร้อง “สารวัตร” มือกีตาร์สุดหล่อระดับหลัวแห่งชาติ ให้มาช่วยเป็นแฟนปลอม ๆ ด้วยการเข้าไปตีสนิทถึงในชมรมดนตรี และทั้ง2คนมาเจอกันได้ยัง เรื่องราวจะเป็นยังไงต้องไปดูต่อนะ  "ไทน์" รับบทโดย "วิน- เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร " และ “สารวัตร” รับบทโดย "ไบร์ท- วชิรวิชญ์ ชีวอารี" ติดตามชมย้อนหลังได้ในLINETV หรือ NETFLIXสถานะ:จบบริบูรณ์ (13ep)และมีอีก5ตอนพิเศษซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอยากมากในพ.ศ2563บอกเลยว่าถ้าคุณชอบ แนวแกล้งเป็นแฟนแต่จีบจริงจังหรือเป็นเพราะว่าพวกเขาเกิดมาคู่กันจริงๆ ต้องไปดูนะ เรื่องนี้ฟินแบบ10เต็ม10เลย     ซีรีส์วายไม่ได้มีแค่นี้นะทุกคน มีอีกหลายเรื่องที่แสงแดดอยากให้ทุกคนได้ดู แต่ละเรื่องมีควาามฟินจิ้นและเนื้อหาที่แตกต่างกัน และพร้อมที่จะพาทุกคนจิกหมอนไปพร้อมกันการดู แสงแดดอยากให้ทุกคนลองเปิดใจดูซีรีส์วาย คำเตือน:ระวังเลือดหมดตัวและระวังหมอนที่บ้านคุณอาจขาดได้นะ เพราะมันฟินมากเลยทุกคน  ขอบคุณภาพจากภาพที่1https://tv.line.me/lovesickss1ภาพที่2,3https://tv.line.me/sotustheseriesภาพที่4,5https://tv.line.me/lovebychanceseriesภาพที่6https://tv.line.me/tharntypetheseriesภาพที่7,8https://tv.line.me/2gethertheseries

มาทำความรู้จักแฟชั่น Y2K ที่กลับมาฮิตอีกครั้งในยุคของ Gen Z
อ่าน

มาทำความรู้จักแฟชั่น Y2K ที่กลับมาฮิตอีกครั้งในยุคของ Gen Z

ในสมัยปัจจุบันการแต่งกายสามารถมีหลายรูปแบบแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน โดยหนึ่งในสไตล์วัยรุ่นชาวGen Z นิยมในขณะนี้คือ แต่งตัวแบบY2K ที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากในโลกออนไลน์ วันนี้ทาง RabbitEdu จะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับแฟชั่น Y2K ว่ามีที่มายังไงและทำไมถึงได้ฮิตมากๆในวัยรุ่น Gen Z พร้อมแล้วไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะเข้าใจความหมาย Y2KY2K เป็นคำย่อที่มาจาก year 2000 หรือปี ค.ศ. 2000 โดยมีที่มาจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในปี 2000 ที่ในสมัยนั้นมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามา ในช่วงนั้นจะใช้ข้อมูลตัวเลขปี ค.ศ.ในการบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เช่น ปี1994 ก็จะบันทึกข้อมูลลงท้ายด้วยตัวเลข 94 แต่พอเมื่อปี 2000 มาถึง ตัวเลขที่จะใช้บันทึกลงท้ายด้วย 00 ทำให้คนในสมัยนั้นต่างมีความกังวลว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่จะเข้าใจผิดว่าเป็นปี 1900 ไหม จึงทำให้ปี 2000 เป็นปีที่มีความสำคัญมากในวงการเทคโนโลยีที่มาของแฟชั่น Y2Kสไตล์การแต่งตัวแบบ Y2K จะเริ่มฮิตในช่วงปลายปี 2000 เพราะดารา นักร้องส่วนใหญ่จะนิยมแต่งตัวกันด้วยแฟชั่นที่เน้นเอาความสดใส สนุก และความไร้ขีดจำกัดเพิ่มเข้ามาในการแต่งตัวออกงานแต่ละครั้ง การแต่งตัวแบบ Y2K จะเน้นการใส่เสื้อครอป หรือใส่เสื้อยืดพอดีตัวที่มีลวดลายตัวหนังสือภาษาอังกฤษสกรีนตัวใหญ่ๆ ส่วนกางเกงชาว Y2K ก็จะชอบใส่กางเกงที่หลวมๆ รวมถึงใส่กระโปรงยีนส์แบบสั้น เสื้อผ้าที่นิยมแต่งในสไตล์นี้ จะออกแนว สดใส เน้นสีที่มีความออกไปโทนชมพูหรือม่วง โดยคนที่สามารถบ่งบอกและถ่ายทอดสไตล์การแต่งตัวแบบ Y2K ออกมาได้ดีก็จะมี Bella Hadid หรือแม้แต่ Paris Hilton ที่ในช่วงแรกๆที่เข้าวงการ 2 คนนี้จะแต่งตัวด้วยสไตล์ที่ดูตรงกับนิยามของ Y2K มากค่ะ https://www.instagram.com/p/ChsbAw6vTY_/?utm_source=ig_web_copy_linkhttps://www.instagram.com/p/Ca0RKeMPFTh/?utm_source=ig_web_copy_linkทำไมแฟชั่น Y2K ถึงได้ฮิตมากๆในวัยรุ่น Gen ZGen Z ชอบในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา บวกกับชาววัยรุ่น Gen Z ชอบอะไรที่มีความแตกต่าง มีความสดใส และแปลกใหม่ ทำให้การแต่งตัวในสไตล์เดิมๆที่ดูเก่าแก่ จึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป  อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้การแต่งตัวแบบ Y2K นิยมมากๆใน Gen Z คืออิทธิพลจากนักร้องและอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ เช่น วงนักร้องเกาหลีน้องใหม่ อย่าง  newjeans ที่มีการแต่งตัวโดดเด่นมากในเวลานี้  โดยสไตล์ของพวกเธอถือว่าเข้ากับคอนเซป Y2K อย่างแท้จริงhttps://www.instagram.com/p/CnHohHqJzmI/?utm_source=ig_web_copy_linkส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบที่จะแต่งตัวสไตล์ Y2K มากเพราะผู้เขียนมองว่าสไตล์นี้ทำให้ได้ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เข้ามาช่วย เพราะก่อนที่จะแต่งตัวเราต้องคิดว่าเสื้อตัวนี้กระโปรงหรือกางเกงตัวนี้ใส่แล้วจะเข้ากันไหมนะ โดยการแต่งตัวของผู้เขียนชอบที่จะใส่เสื้อกล้ามตัวเล็กพอดีตัว แล้วใส่คู่กับกางเกงขายาวที่มีเอวต่ำ ในแต่ล่ะวันก็จะแต่งแตกต่างกันไป ถ้าผู้เขียนเบื่อที่จะใส่กางเกงขายาวแล้ว ก็จะเปลี่ยนไปใส่กระโปรงยีนส์ที่สั้นแบบไม่มาก เลยหัวเข่าขึ้นไปประมาณหนึ่ง ใส่คู่กับรองเท้าบูทที่มีสีสดใส ตัวอย่างก็นี้เลยค่ะ สไตล์การแต่งตัวของ Dua Lipa ที่ผู้เขียนชอบมากในการนำมาเป็นต้นแบบในการแต่งตัวแต่ละวันhttps://www.instagram.com/p/Ck7u3hCMNDB/?utm_source=ig_web_copy_linkในการแต่งตัวสไตล์ Y2K เป็นอีกสไตล์ที่มีความน่าสนใจมาก เพราะด้วยการนำเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์มาผสมผสานให้มีความลงตัว คนที่แต่งสไตล์นี้ได้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นแค่ชาว Gen Z เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ถ้าอยากจะลองหันมาแต่งตัวให้มีความน่าสนุกและน่าสนใจมากขึ้น การแต่งตัวแบบ Y2K ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่เหมาะมากกับการเริ่มต้นในการสร้างความน่าสนใจให้กับการแต่งตัวเครดิตภาพปกภาพที่1/วิดีโอที่1/ภาพที่3/ภาพที่4/ภาพที่5เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Review & Recap Kingdom Season 1 [Spoil] : ชวนเตรียมพร้อมวิ่งหนีผีดิบกันต่อใน Seanson 2
อ่าน

Review & Recap Kingdom Season 1 [Spoil] : ชวนเตรียมพร้อมวิ่งหนีผีดิบกันต่อใน Seanson 2

 "Kingdom สนุกนะ เธอควรดู" เพื่อนของดิฉันกล่าวขึ้น ขณะที่พวกเรากำลังเลือกภาพยนตร์หรือซีรีส์จาก Netflix เพื่อชมร่วมกันยามบ่าย หลังรับประทานอาหารมื้อเที่ยง  "แต่ปกติเราไม่ดูหนังผีอะ มันน่ากลัวมากไหม" ดิฉันเคยเห็นตัวอย่างของซีรีส์เรื่องนี้อยู่หลายหน และต้องขออยากรับจริง ๆ ค่ะ ว่าเป็นซีรีส์ที่ดิฉันสนใจรับชมมาก ๆ ติดอยู่แค่เรื่องเดียวคือดิฉันไม่ดูหนังหรือละครผี ๆ "เออ...ใช่ ลืมไปว่าแกมองเห็นผี แต่เรื่องนี้มันสนุกจริง ๆ นะ ว่าง ๆ ลองดูสิแก" เพื่อนทุกคนทราบดีว่าดิฉันมองเห็นผี และนั้นเป็นเหตุผลที่ดิฉันไม่ชอบดูหนังผี หรือหนังสยองขวัญใด ๆ เพราะไม่ต้องการนำพาเรื่องราว ภาพและเสียงเหล่านั้น เข้านอนยามดึกไปพร้อมกับดิฉันด้วยแต่เนื่องจากเสียงล่ำลือถึงความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้ ดิฉันจึงทำใจกล้า เปิดซีรีส์เรื่องนี้ดูในเวลากลางวัน ไปพร้อม ๆ เผื่อว่าความน่ากลัวจะน้อยลงไปบ้าง ฮ่าฮ่าฮ่าเมื่อได้ชมแล้ว ขอบอกจริง ๆ ค่ะว่า คุ้มค่าแห่งการอวสานอาหารเที่ยงจริง ๆ  ที่สุดแห่งความเหน็ดเหนื่อยของผู้ชม ไหนจะลุ้นตัวโก่งเอาใจช่วยพระเอก ทั้งจากการถูกตามล่าและการต่อสู้วิ่งหนีผีดิบ! เรื่องราวของ Kingdom เข้มข้นรสจัดเหมือนกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล กลิ่นหอมหวล รสขมสะใจ เดินเรื่องรวดเร็วว่องไว ไม่มีหยุดพัก ไม่ปราณีหัวใจผู้ชม ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของชนชั้นปกครอง เรื่องสยองขวัญของโรคระบาดที่ทำให้ผู้คนกลายเป็นผีดิบ นอกจากนั้นยังสาดความจริงที่น่าอดสูของจิตใจมนุษย์ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงเที่ยงแท้ไม่แปรเปลี่ยน Kingdom Season 1 มีทั้งหมด 6 ตอนด้วยกัน ฉะนั้นถ้ามีเวลาประมาณ  5 ชั่วโมงก็สามารถนั่งดูจนจบได้ภายในวันเดียวเลยค่ะเริ่มเรื่องด้วยการค้นหาความจริงขององค์ชายรัชทายาท เกี่ยวกับอาการประชวรของพระราชบิดาของพระองค์ ที่ดูมีเงื่อนงำลึกลับซับซ้อน พระองค์ทรงถูกพระมเหสีกีดกันไม่ให้เข้าเฝ้าพระราชบิดา  พระองค์ออกเดินทางพร้อมด้วยองครักษ์เพียงหนึ่งคน ด้วยความมุ่งหมายที่จะสืบหาความจริงเบื้องหลังอาการประชวรของพระบิดา แต่ทว่ากลับนำไปสู่การเปิดเผยโรคระบาด ที่เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นผีดิบ ไม่ว่าจะเป็นการถูกกัด หรือการรับประทานอาหาร ที่ปรุงมาจากเนื้อสัตว์ที่ถูกผีดิบกัดกิน     ลงท้ายที่พระองค์จะต้องต่อสู้ หนีเอาชีวิตรอด ทั้งจากผีและคน ซึ่งดูเหมือนคนเป็นจะน่ากลัวว่าผีดิบเยอะเลยค่ะ ไหนจะถูกทิ้งไว้ในดงผีดิบ ไหนจะถูกหักหลัง รอบกายไม่มีใครไว้ใจได้ ช่างเป็นองค์รัชทายาทผู้โดดเดี่ยวยิ่งนักผีดิบตัวที่ดิฉันสยองที่สุด คือตัวนี้ค่ะ... เอาจริง ๆ หน้ากากน่ากลัวกว่าหน้าผีดิบจริง ๆ อีกค่ะ...แง  อวสานอาหารเที่ยงทันทีเมื่อผีดิบออกโรงสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงการดูหนังผี ดิฉันอยากแอบบอกว่า เรื่องนี้ดูได้นะคะ ไม่เก็บเอาไปหลอนก่อนนอนแน่ ๆ แม้เหล่าผีดิบจะแต่งหน้าสุดสยองครบถ้วนกันทุกคน และมีการเคลื่อนไหวร่างกายผิดธรรมชาติ กร๊อบ ๆ แกร๊บ ๆ แถมยังวิ่งเร็วราวกับนักวิ่งโอลิมปิก แต่เอาจริง ๆ แล้วโดยรวมจะเน้นไปที่ลุ้นจนเหนื่อย มากกว่ากลัวจนไม่กล้าขยับตัว ยกเว้นว่าเป็นคนที่กลัวผีดิบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ไปวิ่งหนีผีดิบต่อในฝันนะคะแต่ถ้าสาว ๆ จะปลื้มองค์รัชทายาทจนเก็บเอาไปฝันกลางวัน อันนี้มีแนวโน้มสูงค่ะ องค์รัชทายาทอีชาง ซึ่งรับบทโดย จูจีฮุน ผู้ที่เคยทำให้สาว ๆ เพ้อเจ้อกันหนัก ๆ จากบท เจ้าชายเย็นชา แห่ง Princess Hours เมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว ครั้งนี้กลับมาเป็นเจ้าชายในยุคโซซอน หล่อ เท่ เงียบครึม เข้มแข็ง ใจดี มีเมตตา สารพัดคุณสมบัติอันดีงาม ซึ่งความดีงามทั้งมวลนี้แล ทำให้ผู้ชมต้องเอาใจช่วยลุ้นจนเหนื่อย ว่าแต่ละตอนนั้นองค์รัชทายาทจะรอดชีวิตไปได้อย่างไร แม้จะพอเดาได้ว่าพระเอกต้องอยู่จนถึงตอนจบ แต่คุณพระคุณเจ้าเอ้ย... ชีวิตพ่อคุณช่างแขวนอยู่บนเส้นด้ายเหลือเกินนะพ่อ สีหน้าและแววตาที่ไม่บ่งบอกแน่ชัดถึงอารมณ์ใด ๆ ทำให้คนดูอย่างดิฉันเดาใจไม่ถูกจริง ๆ ค่ะ ว่าในแต่ละตอนพระองค์จะแก้สถานการณ์อย่างไร ต้องชมทั้งทีมผู้คัดตัวนักแสดง ว่าเลือกนักแสดงได้เหมาะสมกับบทบาทยิ่งนัก และตัวนักแสดงเองก็แสดงฝีมืออย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติจริง ๆ ค่ะนอกจากบทของพระเอกที่หล่อ ๆ เท่ ๆ เป็นคนดี ศรีโซซอน จะกวาดหัวใจของผู้ชมไปได้อย่างง่ายดายแล้ว บทบาทของ คุณหมอซอบี ที่รับบทโดย แบดูนา นักแสดงคุณภาพระดับโลก ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีจากซีรีส์และภาพยนตร์มากมายหลายเรื่อง ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยค่ะ หมอซอบีมีเมตตา เข้มแข็ง และดูเหมือนกับว่าผีดิบทั้งหลาย จะไม่สามารถทำให้จิตใจของคุณหมอหวั่นไหวได้เลย ทั้งหมดนั้นคงเป็นเพราะเธอมองเห็นพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนไข้ ซึ่งเธอต้องการที่จะศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ รักษาและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายนี้ แต่เมื่อถึงยามที่ต้องป้องกันตัวและปกป้องคนเป็น เธอก็ไม่ลังเลใจที่จะฟาดฟันกับเหล่าผีดิบแม้แต่น้อย ที่สุดแห่งความเท่!นอกจากนั้น รยูซึงรยง นักแสดงผู้รับบท โจฮักจู ขุนนางชั้นสูงผู้มีความหลงใหลในอำนาจ อันเป็นต้นเหตุแห่งความสูญเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้บริสุทธิ์ หรือ บุตรชายอันเป็นที่รักหนึ่งเดียวของเขา แม้จะมีอำนาจเหนือบัลลังค์ สามารถนำลูกสาวของตนเองขึ้นสู่ตำแหน่งพระมเหสี แต่ก็ยังไม่อาจหายใจหายคอได้สะดวก เพราะองค์รัชทายาทอีซางยังคงมีชีวิตอยู่  จึงต้องถ่วงเวลาโดยการปกปิดการสิ้นพระชนม์ของพระราชา เปลี่ยนพระองค์ให้กลายเป็นผีดิบ เพื่อรอให้บุตรสาวของตนคลอดองค์รัชทายาทสำเร็จเสียก่อน ในขณะเดียวกันก็ใส่ร้ายองค์รัชทายาทว่าก่อกบฏ เพื่อกำจัดพระองค์คนพ่อว่าโหดแล้ว ลูกสาวก็อำมหิตไม่ใช่เล่นเลยนะคะ ไหนจะส่งนางในเข้าไปเพื่อให้พระราชาผู้กลายสภาพเป็นผีดิบกินทุกคืน การเลี้ยงดูหญิงมีครรภ์เพื่อฆ่าและนำบุตรชายมาเป็นของตน เพราะพระมเหสีมิได้ทรงพระครรภ์องค์รัชทายาทแต่อย่างใด แม้ในภาคแรก จะไม่ได้เห็นความโหดของพระนางมากมายเท่าผู้เป็นพ่อ แต่ด้วยแววตาที่เย็นชา น่ากลัว ไร้ความเมตตา และความยินดีในอำนาจที่ตนมี ดิฉันคาดคิดว่าในภาคที่  2 นั้น ความเลือดเย็นของพระนางต้องเพิ่มพูนทวีขึ้นเป็นไหน ๆ เราคงจะต้องวิ่งหนีพระนางมากกว่าวิ่งหนีผีดิบแน่ ๆ เลยค่ะ ในส่วนของนักแสดง ขอบอกว่าทุก ๆ ท่านแสดงได้ถึงจิตวิญญาณแห่งตัวละครนั้น ๆ จริง ๆ ค่ะ นอกจากนั้นรายละเอียดของเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ช่างสมบูรณ์ เสมือนเหตุกาณ์ที่ย่อมเกิดขึ้นจริงในโลกมนุษย์ ไม่ว่าจะในช่วงที่เกิดวิกฤติใด ๆ หรือช่วงที่บ้านเมืองปลอดภัยดีก็ตาม อันเป็นธรรมดาโลก อาทิเช่น ความเมตตา การช่วยเหลือกันและกัน ความสามัคคี ความเห็นแก่ตัว การแบ่งชนชั้น หรือแม้กระทั่งการตั้งคำถามและความสงสัยของมนุษย์ ต่อเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ ที่ตนไม่เคยรู้จักพบเห็นมาก่อน อาทิเช่น ตอนที่ 2 ในขณะที่ผู้ชมอย่างเราทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่าศพทั้งหมดที่เหล่าทหารและขุนนางลากออกมาชันสูตรคือผีดิบ แต่พวกเขาไม่รู้...  เราก็ต้องมาลุ้นเอาใจช่วยว่าพวกเขาจะจัดการเอาชีวิตรอดไปได้อย่างไร และจะมีใครรอดชีวิตบ้างดิฉันชื่นชอบความสมบูรณ์แบบในการวางเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สมควรจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้าไปหาร่างผีดิบอันเคยเป็นผู้ที่รักแล้วโดนกัดตาย หรือการขังตัวเองในห้องขังเพื่อป้องกันตัวเองจากผีดิบ แต่ดัน...มีคนโดนกัดแแล้วกลายเป็นผีดิบในห้องขังนั้นด้วย เรียกได้ว่าไม่มีใครปลอดภัยเลยแม้แต่คนเดียว การส่งตัวเอกของเรื่องไปสู่สถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยตลอดเวลา และเมื่อเขาเหล่านั้นไม่ได้เก่งกาจเหนือมนุษย์ ยิ่งทำให้ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความสมจริง สามารถดึงความสนใจของผู้ชมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นตลอดทั้งเรื่องได้โดยง่ายนอกเหนือจากตัวเรื่องแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ภาพสวยงามมาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะฉากไหน ๆ การจัดองค์ประกอบภาพเรียกว่ามีการวางแผน และคิดมาแล้วเป็นอย่างดี ฉากที่ดิฉันประทับใจและอยากหยิบขึ้นมาเล่า ก็คือฉากที่ข้าราชบริพารนำศพนางใน ที่ถูกพระราชาซึ่งกลายเป็นผีดิบกัดกินมาโยนทิ้ง ถ่วงน้ำ ณ สวนสวยในวังหลวง เป็นฉากที่ภาพวิวทิวทัศน์งดงามเหลือเกิน แต่เบื้องหลังทัศนียภาพอันวิจิตรนั้น คือ สุสานที่จองจำผีดิบเหล่านางในไว้  ไม่ให้ออกมาอาละวาด    มันช่างเป็นฉากที่กินใจ สวยสยอง สะท้อนสะเทือนใจ ถึงความบริสุทธิ์งดงามของธรรมชาติ และความน่าหวาดกลัวของมนุษย์เมื่อขาดไร้ศีลธรรมนำใจ    ทำให้ฉาก ๆ นี้ เป็นฉากที่น่าสะพรึง และติดตาที่สุดสำหรับดิฉัน หาใช่ภาพการถูกไล่ล่าด้วยผีดิบไม่อีกหนึ่งความดีงามที่มาถูกที่ถูกจังหวะ คือ ดนตรีและเสียงประกอบ ที่ผสานกลมกลืนเป็นหนึ่งกับแต่ละฉากแต่ละตอน มาแบบนิ่ง ๆ เนียนสนิทไปกับภาพที่นำเสนอ ไม่มากเกินไป ไม่ดังเกินไป ไม่เน้นให้ผู้ชมตกใจกลัวด้วยเสียงประกอบชวนหลอน แต่สิ่งที่บรรจุบรรจงใส่ลงมานั้น มีความเหมาะสมและส่งเสริมภาพเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินไปได้เป็นอย่างดี ราวกับว่าผู้ชมได้เข้าไปอยู่ในฉากนั้น ๆ เพื่อซึมซับอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครและเรื่องราว ผ่านร่างกายและจิตใจของผู้ชมเองโดยตรงดิฉันรู้สึกว่า การใช้เสียงประกอบที่พอดีพองาม ส่งผลให้ประสบการณ์ในการรับชมนั้นมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ส่งผลต่อจิตใจของผู้ชมยิ่งกว่าการกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมด้วยเสียงสยอง จนไม่เหลือช่องว่างให้ผู้ชมได้ใช้จินตนาการ หรือมีตัวตนร่วมในประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์หรือละครนั้น ๆ เลย   ดิฉันรู้สึกว่า ถ้าภาพยนตร์หรือซีรีส์สยองขวัญเรื่องใดที่เจ๋งมากพอ ย่อมไม่ต้องอาศัยเสียงเพื่อทำให้ผู้ชมหวาดกลัวค่ะ โดยสรุปแล้ว Kingdom เป็นซีรีส์ที่งดงามควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง ซีรีส์เรื่องนี้ครบถ้วนไปด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น นักแสดงคุณภาพ ภาพและการจัดองค์ประกอบที่งดงาม ถึงแม้ดิฉันจะรู้สึกกว่าผีดิบจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็ขอแนะนำให้งดรับประทานอาหารในขณะรับชม โดยเฉพาะในฉากที่ผีดิบปรากฏตัวค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า  ดิฉันเป็นหนึ่งในผู้ที่เฝ้ารอ Kingdom Season 2 อย่าใจจดใจจ่อ เพราะ Season 1 ไม่ได้จบลงด้วยความโล่งอกโล่งใจ สร้างความสบายใจให้แก่ผู้ชมแต่อย่างใด แต่กลับจบลงด้วยการเปิดประเด็น และข้อสงสัยต่าง ๆ ให้ผู้ชมได้ลุ้นและวิเคราะห์กันต่อไป ว่าสุดท้ายองค์รัชทายาทจะรับมือกับศึกรอบด้านได้อย่างไร หมอซอบีจะค้นพบวิธีรักษาโรคระบาดนี้ได้หรือไม่ และใครกันเป็นผู้ที่หักหลังองค์รัชทายาท! อ่านรีวิวจบแล้ว เตรียมพร้อมไปวิ่งหนีผีดิบและเอาใจช่วยองค์รัชทายาทกันใน Kingdom Season 2 ที่กำลังจะออกอากาศทาง Netflix ในวันที่ 13 มีนาคม 2563 นี่ด้วยกันค่ะ   แต่เดี๋ยวก่อน...ปัจจุบันนี้สามารถรับชม Netflix ผ่านกล่อง Trueid TV ได้แล้วนะคะ ดีแท้!คุณคิดว่าใน Season 2 องค์รัชทายาทจะรอดชีวิตรึเปล่าคะ *ขอขอบพระคุณภาพโปรโมทซีรีส์อย่างเป็นทางการ และภาพประกอบบทความจาก Official Trailer Kingdom | Netflix Official Site และ  Youtube : Kingdom | Official Trailer [HD] | Netflix  

"Love sick The series" Y ซีรีส์ที่คิดถึง
อ่าน

"Love sick The series" Y ซีรีส์ที่คิดถึง

Love sick The series ถือได้ว่าเป็นซีรีส์วายเรื่องแรก ๆ ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากทั้งในไทยเอง และในต่างประเทศ ที่ทำให้ได้รับกระแสตอบรับขนาดนั้น ก็เพราะว่าเมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้ว ทั่วโลกก็เปิดรับกับกลุ่ม LGBT มากขึ้น แล้วก็เริ่มมีกระแสหนังวายจากต่างประเทศมาบ้าง แต่ในไทยยังไม่ค่อยมีกัน  และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเเรก พอเปิดตัวมาก็ปังมาก ๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะได้นักแสดงสุด Cute boy เป็นตัวเอกของเรื่อง นั่นก็คือ หนุ่มกัปตัน "ชลธร คงยิ่งยง" ที่มารับบทเป็น "โน่" และหนุ่มไวท์ "ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" ที่มารับบทเป็น "ปุณณ์" #ปุณณ์โน่ #ไวท์กัปตันเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้นั้นก็สร้างมาจากนิยาย "ชุลมุนหนุ่มกางเกงน้ำเงิน" ซึ่งเล่าถึงกลุ่มเพื่อน ๆ ในรั้วโรงเรียนชายล้วน ที่เป็นมิตรภาพต่อกันมาก ๆ และเป็นซีรีส์แนว Boy Love (BL) แบบใส ๆ ไม่มีฉากหวาน ๆ อะไรหวือหวามาก แค่เดินจับมือกัน หรือหยอกล้อกัน แค่นั้นก็ฟินมาก ๆ กรี๊ดลั่นบ้านแล้วจ้า เรียกได้ว่าตอบโจทย์กับหนุ่มวาย สาววาย โดยเฉพาะนักเรียน ม.ปลาย อย่างเรา ๆ ก็จะอินกันเป็นพิเศษ โดยหลัก ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือเรื่องราวของโน่ และปุณณ์ ที่เดิมทีทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าโน่ที่เป็นประธานชมรมดนตรีจัดงบประมาณของชมรมได้ไม่พอกับการจัดซื้อเครื่องดนตรี เขาจึงปรึกษากับปุณณ์ว่าจะทำยังไงดี ปุณณ์เลยบอกโน่ว่า "เป็นแฟนผมดิ" แต่เหมือนกับว่าปุณณ์พูดแบบทีเล่น ทีจริง ทั้งสองคนเลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ปุณณ์ก็จะเริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทุกตอนเลยล่ะฉากที่ประทับใจมากที่สุดเลยก็คือ Episode สุดท้ายที่ปุณณ์ กับโน่รู้ใจตัวเอง และเป็นวันที่ปุณณ์พูดกับพ่อว่า (ว่าอะไรไม่บอกจ้า ต้องไปรับชมเอง) ทำให้เขาทั้งสองคนได้คลายความกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เขาดูมีความสุขมาก ๆ เดินจับมือกัน หัวเราะด้วยกัน ยิ้มด้วยกัน ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความรักที่เขาสองคนมีให้กัน แต่กว่าทั้งคู่จะมาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างมาด้วยกันมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของทั้งสองคน แฟนของเขา เพื่อน และสังคมในโรงเรียนชายล้วน ทำให้รับรู้ได้ถึงความพยายาม และความรักของทั้งสองคนมาก ๆ ที่ร่วมผ่านมันมาด้วยกันและในตัวซีรีส์ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกรั้วโรงเรียนชายล้วนด้วย เพราะว่าทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานฟุตบอลประจำปี งานวิชาการ ที่ก็จะมีการเปิดรั้วชายล้วน เพื่อให้สาว ๆ จากโรงเรียนหญิงล้วนเข้ามาร่วมกิจกรรมในโรงเรียนชายล้วนด้วยกัน ทำให้ทั้งปุณณ์ และโน่ ต่างก็ได้เจอคนที่ชอบที่อยู่ฝั่งโรงเรียนหญิงล้วนนั่นเอง ซึ่งปุณณ์ก็มีแฟนอยู่แล้วคือ "เอม" และโน่ ก็มีแฟนอยู่แล้วคือ "ยูริ" ซึ่งทั้งเอม และยูริก็เป็นเพื่อนกันที่โรงเรียนหญิงล้วนอยู่แล้ว และส่วนมากเวลาเลิกเรียน พวกเขาก็จะมักไปทานอาหารด้วยกัน ไปเดินเล่นกุ๊กกิ๊กกัน ถือว่าทั้งเอม และยูริก็เป็นตัวแปรสำคัญของซีรีส์เรื่องนี้เลยล่ะ ทำให้คนดูอย่างเรา ๆ เนี่ย เดาทางไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ว่าปุณณ์ และโน่ทั้งคู่จะลงเอยกันยังไง หลังจากที่ดูจบแล้ว เราก็จะได้อะไรหลาย ๆ อย่าง ระหว่างความรักของคนสองคน ที่ต้องผ่านอุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ทำให้คุณค่าของความรักมันดีมาก ๆ และยังแสดงออกอีกด้วยว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน หากพบเจอกับคนที่ใช่แล้ว ก็ไม่มีอะไรมาแยกจากกันไปได้ถือว่า Love sick The series เป็นซีรีส์วายในตำนาน ที่ทำให้คิดถึงมาก ๆ เลยล่ะ ซีรีส์เรื่องนี้ก็มีทั้งหมด 3 ซีซัน เพื่อน ๆ คนไหนที่คิดถึงซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกัน ก็สามารถรับชมได้ทั้งทาง Netflix และ LINE TV เลยจ้า และเพื่อน ๆ คนไหนที่มีกล่อง True ID TV อยู่ที่บ้าน ก็สามารถรับชมใน Netflix ผ่านจอทีวีได้อีกด้วยน้าาา...จอใหญ่จุใจกันไปเลย บอกเลยว่าถ้าดูแล้วจะให้ความรู้สึกว่าย้อนวัยกลับไปมีความรักแบบใส ๆ เหมือนสมัยเรียน ม.ปลายเลยล่ะ  ^^ขอบคุณภาพหน้าปก และภาพที่ 5 จาก Official Trailer Love sick The series ภาพที่ 1 - 4 จาก Facebook page : Love Sick The Series

บล.บัวหลวง คาด SET Index ปี 65 ลุ้นแตะ 1,800 จุด รับเศรษฐกิจฟื้นตัว ชี้ Gen Y - Gen Z ดันยอดบัญชีเล่นหุ้นใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
อ่าน

บล.บัวหลวง คาด SET Index ปี 65 ลุ้นแตะ 1,800 จุด รับเศรษฐกิจฟื้นตัว ชี้ Gen Y - Gen Z ดันยอดบัญชีเล่นหุ้นใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ข่าววันนี้ นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือบล.บัวหลวง เปิดเผยภาพรวมการลงทุนตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนราว 13% ต่อปี เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ติดลบ 9.13% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นแตะระดับ 80,000-100,000 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าที่อยู่ 50,000 ล้านบาท หนุนด้วยปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่เริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนดีกว่าปี 2563 ในด้านยอดเปิดบัญชีใหม่เพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ก็มีตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนจากยอดเปิดบัญชีใหม่ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากคนรุ่นใหม่หันมาสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำยาวนานหลายปี บวกกับมาตรการ Work From Home ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องทำงานและเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน ส่งผลให้มีเวลาว่างมากขึ้น หลายคนจึงแบ่งเงินออมมาลงทุน เพื่อหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่มากกว่าฝากเงินรับดอกเบี้ย สำหรับทิศทางปี 2565 บล.บัวหลวง มองเป้าหมายดัชนีสิ้นปีหน้า มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปใกล้ระดับ 1,800 จุด ส่วนแนวรับและแนวต้านระยะสั้นอาจอยู่ 1,580 จุด และ 1,650 จุด ตามลำดับ ขณะที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรคาดการณ์ ปี 2565 (P/E) และกำไรต่อหุ้น (EPS) อาจอยู่ 18 เท่า และ 98 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 96 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด -19 และประกาศล็อกดาวน์ที่อยู่ประมาณ 86 บาทต่อหุ้นในปี 2562 เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัว 4.1% และกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทยโตต่อเนื่องจากปี 2564 หลังคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวกลับมา แม้จะมีสายพันธุ์ใหม่อย่าง โอไมครอน ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนให้เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศไหลเข้ามา ทั้งนี้ระหว่างทางดัชนีอาจมีความผันผวน เพราะยังต้องเผชิญแรงกดดันหลายเรื่อง เช่น คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3 ครั้งในปี 2565 เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ในปัจจุบันอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2564 คณะกรรมการมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.00-0.25% และเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มตั้งแต่ ม.ค. 2565 นอกจากนั้นยังมีเรื่องเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน, การแพร่ระบาดของโอไมครอน, การเลือกตั้งกลางสมัยของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. 2565, ประเทศยุโรปอาจปรับเพิ่มดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังปี 2565 และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของประเทศจีนที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นต้น ปัจจัยทั้งหมดล้วนทำให้กระแสเงินไหลเข้าออกภูมิภาคอาเซียนและเกิดการผันผวนมากขึ้น ฉะนั้นนักลงทุนอาจต้องจับตาเรื่องเหล่านี้ต่อเนื่อง เพื่อจะได้ปรับแผนการลงทุนได้ทันเหตุการณ์ นายชัยพร กล่าวถึงกลยุทธ์ลงทุนในปี 2565 โดยแนะกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อให้พอร์ตมีความสมดุล ยืดหยุ่น และรับมือกับดัชนีที่อาจปรับตัวขึ้นลงในปีหน้า โดยให้แบ่งสัดส่วนลงทุนใน ทองคำ 10%, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) 10%, ตราสารหนี้ 10%, เงินสด 5%, ส่วนการลงทุนใน ตลาดหุ้น แนะให้ลงทุนในสัดส่วน 65% เน้นกระจายตัวใน หุ้นไทย 12% หุ้นเวียดนาม 17% หุ้นสหรัฐฯ 22% ที่เหลือลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นและจีน สำหรับ กลุ่มหุ้นเด่น ที่ต้องมีติดพอร์ตก่อนปี 2565 คือ 1. กลุ่มการบริโภค เพราะราคาหุ้นกลุ่มนี้ยังปรับตัวขึ้นไม่มาก เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน นอกจากนั้นยังได้รับประโยชน์จากการจับจ่ายใช้สอยที่คาดว่าจะสูงขึ้น โดยเฉพาะหุ้น CRC, CBG และ CPALL 2. กลุ่มสถาบันการเงิน คาดว่าได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทั่วโลก แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำจนกระทั่งไตรมาสสุดท้ายปี 2565 3. กลุ่มด้านเทคโนโลยี Platform, การบริหารข้อมูลด้านการตลาด และการบริหารความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันมีความจำเป็นมากขึ้น จากการแข่งขันที่สูงในภาวะตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 4.กลุ่มที่เคลื่อนไหวไปตามสถานการณ์โควิด-19 เช่น กลุ่มโรงพยาบาล และอุปกรณ์การแพทย์ แต่ที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง แนะคงสัดส่วนการลงทุนไว้เช่นเดิม 5. กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี มองว่า ราคาน้ำมันดิบอาจไปได้ไม่ไกล หลังรัฐบาลทั่วโลกลงนามสนธิสัญญาลดคาร์บอน โดยราคาน้ำมันดิบปี 2565 อาจเฉลี่ยราว 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 6. กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แนะเพิ่มสัดส่วน เพราะได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการ และสนับสนุนการลงทุนต่าง ๆ ของภาครัฐ อย่างไรก็ดี แนะให้ลดสัดส่วนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แม้จะได้แรงหนุน จากเทรนด์ Metaverse และในปีหน้ากำไรขยายตัวต่อ แต่ปัจจุบันราคา Upside เหลือน้อยแล้ว จากมูลค่าที่ค่อนข้างแพงมาก

iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series
อ่าน

iPhone 15 Series มีตัวเครื่องพร้อมขายลดลง 8% เมื่อเทียบจาก iPhone 14 Series

เป็นที่ทราบกันดีว่าอีกไม่กี่เดือนนั้น Apple จะเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone 15 Series ซึ่งตามรายงานก่อนหน้านั้นมีการระบุว่า Apple กำลังเผชิญกับปัญหาในการผลิต iPhone 15 Pro/Pro Max ส่งผลให้มีสินค้าสต็อกในช่วงเริ่มต้นต่ำกว่า iPhone 14 Series รุ่นปัจจุบัน ตามรายงานระบุไว้ว่า สต็อกโดยประมาณสำหรับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 90 ล้านเครื่อง แต่คาดว่า iPhone 15 Series จะมีสินค้าพร้อมจำหน่ายเบื้องต้นที่ 83 ถึง 85 ล้านเครื่อง เนื่องจากปัญหาทางเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตเกี่ยวกับหน้าจอ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะส่งผลกับรุ่น iPhone 15 Pro Max มากที่สุด และรุ่น iPhone 15 Pro รองลงมา หลายคนทราบกันดีว่าการวางขายในช่วงแรกนั้น iPhone รุ่นใหม่ ๆ นั้น จะหาสินค้ายากมาก ในรุ่น iPhone 15 Series รอบนี้ถ้าดูจากข่าวแล้ว ก็น่าจะยากมากกว่าเดิมครับ ที่มา : Gizmochina.com

Vivo เปิดตัวรุ่นกลาง Y100 5G แต่ได้ทั้งชิป Snapdragon 4 Gen 2, จอ AMOLED, กล้อง 50 ล้านพิกเซล
อ่าน

Vivo เปิดตัวรุ่นกลาง Y100 5G แต่ได้ทั้งชิป Snapdragon 4 Gen 2, จอ AMOLED, กล้อง 50 ล้านพิกเซล

Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 4 ในซีรีส์ Y100 นั่นคือ Y100 5G ที่ใช้ศักยภาพจากชิปเซต Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2 ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz, รองรับการชาร์จไฟไว 80 W และกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล Y100 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรต 120 Hz โดยเจาะรูสำหรับติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กล้องหลักด้านหลังนั้น มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Y100 5G ได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 ที่อ้างอิงพื้นฐานจาก Android 14 พร้อมแบตเตอรี่ 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไฟไว 80 W Y100 5G มีให้เลือก 2 สี คือ Black Onyx และ Purple Orchid โดยได้รับการวางจำหน่ายในประเทศอินเโดนีเซีย และมีราคาดังนี้ 8/128 GB: 3,899,000 รูเปียห์ (ประมาณ 8,800 บาท) 8/256 GB: 4,199,000 รูเปียห์ (ประมาณ 9,400 บาท) ที่มา : GSMArena

เปิดตัว Vivo Y100i Power มาพร้อม Snapdragon 6 Gen 1 แบตเตอรี่ 6,000mAh !
อ่าน

เปิดตัว Vivo Y100i Power มาพร้อม Snapdragon 6 Gen 1 แบตเตอรี่ 6,000mAh !

เมื่อต้นปี Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน Vivo Y100i Series ในตลาดอินเดีย และตลาดจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด Vivo ได้เปิดตัว Y100 Series รุ่นใหม่ ที่มีชื่อว่า Vivo Y100i Power สำหรับประเทศจีน โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh Vivo Y100i Power มีขนาด 164.64 x 75.8 x 9.1 มม. และน้ำหนัก 199.6 กรัม ใช้จอ IPS LCD ขนาด 6.64 นิ้ว พร้อมดีไซน์แบบเจาะรู หน้าจอมีความละเอียด Full HD+ 1080 x 2388 พิกเซล และอัตราการรีเฟรช 120Hz ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Origin OS 3 Y100i Power มาพร้อมชิป Snapdragon 6 Gen 1 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 44W โทรศัพท์มีความจุเดียวซึ่งมี RAM LPDDR4x ขนาด 12 GB และที่เก็บข้อมูล UFS 2.2 ขนาด 512 GB นอกจากนี้ยังมี RAM เสมือนขนาด 12 GB และสมาร์ตโฟนยังมาพร้อมกับท่อความร้อนระบายความร้อนด้วยของเหลวขนาด 639 มม. 2 และแผ่นกราไฟท์ขนาด 8736 มม. Vivo Y100i Power มีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์ความลึก 2 ล้านพิกเซล อุปกรณ์มาพร้อมกับคุณสมบัติการเชื่อมต่อตามปกติ เช่น รองรับ 2 ซิม, 5G, Wi-Fi 802.11ac, บลูทูธ 5.1, GPS และพอร์ต USB-C ที่มา : Gizmochina.com

ไม่ดูไม่ได้!! ซีรีส์ Y ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ "2 Gether The Series เพราะเราคู่กัน"
อ่าน

ไม่ดูไม่ได้!! ซีรีส์ Y ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ "2 Gether The Series เพราะเราคู่กัน"

สวัสดีค่ะทุกคนเนื่องด้วยสถานการณ์ที่เราจะต้อง WFH กัน ทำให้เราอยู่บ้านกันมา 2-3 สัปดาห์กันแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เป็นแบบเราไหม หรือนั่งไถ่ทวิตเตอร์ทั้งวัน หาซีรีส์ดูทั้งคืน ซึ่งพอหาไปหามาก็มาเจอเข้ากับซีรีส์ Y ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ นั้นก็คือ "2 Gether The Series" โดยสารภาพเลยค่ะว่าตอนแรกเราจะดูแค่พักสายตา แต่คุณพระ! พอดูไป 1 ตอนเท่านั้น ติดงอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราก็เลยอยากจะชวนทุกคนมาจิ้น มาฟินกันค่ะ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะขอบคุณภาพ GMMTVก่อนอื่นต้องขอเล่าและออกตัวแรงก่อนเลยนะคะว่าซีรีส์ที่เราจะมาพูดถึงวันนี้นั้นคือซีรีส์วาย คือเป็นซีรีส์ชายรักชายค่ะ ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่สันทัดในแนวนี้อาจจะต้องขอโบกมือลา แต่สำหรับคนที่ชอบแนวนี้บอกเลยวค่ะว่าพลาดไม่ได้ โดยซีรีส์เรื่องนี้เดิมนั้นเคยเป็นนิยายมาก่อน โดยจริงๆ แล้วเราเคยพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ไปแล้ว แต่จะขอรีแคปให้ฟังสั้นๆ ว่าเป็นเรื่องราวของหนุ่มไทน์ที่อยากจะให้หนุ่มหล่อของมหาลัยอย่าง "สารวัตร"  มาแกล้งจีบตัวเอง เพื่อหนีการตามตื้อของกรีน เพื่อนร่วมมหาลัย และจากเหตุการณ์หลายๆ อย่างก็ทำให้ทั้ง 2 คนตกหลุมรักกันจริงๆ ซึ่งเรื่องราวนั้นจะจิ้นจะฟินแค่ไหนก็แนะนำให้ทุกคนไปตามดูกันเองนะคะขอบคุณภาพ GMMTVโดยล่าสุดนั้นถึงตอนที่ 7 แล้ว คือเป็นช่วงที่ไทน์เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วล่ะคะว่าตัวเองนั้นชอบสารวัตรเหมือนกัน แต่ก็มีมือที่ 3 (?) ที่ดูเหมือนว่าจะเข้ามาแทรกกลางระหว่าง 2 คน ดังนั้นบอกเลยว่าเป็นตอนที่น่าติดตามมากๆ เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น ความฟินกำลังฟุ้งกระจาย ดังนั้นใครพลาดแล้วจะเสียใจขอบคุณภาพ GMMTVความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้คือต้องสารภาพเลยว่าจริงๆ แล้วเราชอบนิยายเรื่องนี้มาก ตอนแรกก็แอบไม่อยากดูเพราะกลัวว่าซีรีส์นั้นจะทำไม่ถึง แต่ด้วยความขี้เกียจทำงาน เราก็เลยตัดสิ้นใจดูเรื่องนี้ ซึ่งบอกเลยว่ามันเลิศมากจริงๆ เพราะไบร์ทและวิน แสดงได้ดีมากๆ โดยเฉพาะสายตาของไบร์ทนั้นทำให้สาววายแบบเราเขินตัวบิด บอกเลยว่าแต่ละฉากไบร์ทเล่นละเอียดมากๆ ยิ่งผสมกับความหล่อของน้อง คือแบบ...ละลาย กลายเป็นแฟนคลับโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ ส่วนวินนั้นก็มีความน่ารักมาก กลายเป็น "ลูก" ของเราไปแล้ว ขอบคุณภาพ GMMTVสิ่งที่เราชอบของซีรีส์เรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือซีรีส์นั้นไม่ได้พยายามทำให้มันดูเป็นซีรีส์วายจัดๆ คือไม่ได้มีฉากสวีทๆ ที่ผู้กำกับทำเพื่ออวยแฟนคลับ แต่เขาทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีความ Real มากๆ ซึ่งความSimple แบบนี้ล่ะคะที่กลับทำให้มันฟินและเขินหนักเขาไปอีก โดยเฉพาะฉากที่ไทน์และสารวัตรดูคอนเสิร์ตแล้วใส่หูฟังด้วยกันนะ โอ๊ย.... อกดิฉันจะแตก ฟินมากจริงๆขอบคุณภาพ LINE TVซึ่งด้วยความดีงามที่เราว่ามานี้ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ติด # ขึ้นเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดั[ต้นๆ อยู่เสมอ และล่าสุด  #คั่นกูEP6 ติดเทรนด์อันดับหนึ่ง มีคนพูดถึงมากกว่า 1.35 ล้านครั้ง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะมันยังพุ่งติดอันดับเทรนด์โลกอย่างถล่มทลาย พูดมาขนาดนี้แล้วใครที่เป็นยังไม่เคยดูเรื่องนี้พลาดไม่ได้แล้วนะคะ! สาววายทั้งหลาย

รีวิวยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Detective Conan the Series Y8 EP.350
อ่าน

รีวิวยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Detective Conan the Series Y8 EP.350

ถ้าพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสืบสวน คลี่คลายคดีต่าง ๆ แบบเฉียบขาด จนคุณนึกไม่ถึงแล้วล่ะก็ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน คงจะเป็นการ์ตูนที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ในดวงใจของคุณใช่ไหมล่ะ ซึ่งการจะเข้าถึงการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อแล้ว เพราะว่าเราสามารถดูได้แบบฟรี ๆ แล้วที่ TrueID ซึ่งมีทั้งภาพยนตร์คุณภาพและการ์ตูนอนิเมะปกติแล้วเราเป็นคอการ์ตูนหนังสือเรื่องโคนันมาก่อน อ่านแต่แบบหนังสือการ์ตูน ต่อมาเมื่อเค้าทำเป็นหนังซีรีส์ ลูกสาวก็ชอบเปิดดูเช่นกัน เราทั้งคู่ก็เลยได้นั่งดูพร้อมกันบ่อย ๆ ล่าสุดพวกเราดูทาง True ID ซึ่งทำเป็นตอนได้เรียบร้อย สะดวกต่อการดูแบบต่อเนื่อง ไม่ติดขัด วันนี้เราดูตอนที่เรียกว่า Conan Detective Series Y.8 EP.350 ตอน ม้าสีแดงในเปลวเพลิง ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ เป็นการสืบสวนระดับ Advance ขึ้นมาอีกขั้น มีเนื้อหาค่อนข้างซับซ้อน หลอกให้ผู้ดูหลงทายว่าใครคือฆาตกรไปมา จบท้ายด้วยคนที่คุณไม่คาดคิด พลิกล็อกไปหมดเลยค่ะ ประกอบด้วยกันทั้งหมด 3 ตอน คือ ภาคคดี ภาคสืบสวน และ ภาคปิดคดี เรื่องมีอยู่ว่า คุณเรียวโกะ ว่าจ้างนักสืบโมริ ให้มาช่วยสืบดูว่า ใครที่ชอบมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่บ้าน หลังจากนั้นก็เกิดไหม้ที่บ้านของผู้ว่าจ้าง ทำให้ผู้ว่าจ้างตายในกองเพลิง ผู้ต้องสงสัยมีด้วยกัน 4 คน ได้แก่ น้องสาวของผู้ตายที่เป็นหมอดู ชู้ของผู้ตายซึ่งเป็นหมอดูฮวงจุ้ย สามีของผู้ตายซึ่งเป็นจิตแพทย์ และ เจ้าของร้านขายของเก่าที่เคยแวะมาขายของให้ที่บ้านโคนันพร้อมกับฮัตโตริ ช่วยกันสืบสาวเรื่องราว แก้ไขทีละปม มีเรื่องของตุ๊กตาม้าสีแดงเป็นปริศนาที่ต้องคลี่คลาย เพราะเคยมีคดีไฟไหม้บริเวณนั้นมาก่อน ซึ่งทุกครั้งก็จะมีตุ๊กตาม้าสีแดงตกอยู่เสมอ จึงคิดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุคนเดียวกันแบบต่อเนื่องรูปคุณเรียวโกะ ผู้ว่างจ้าง รูปผู้ต้องสงสัยทั้้ง 4 คนตอนแรกเราก็เดาว่า น้องสาวของผู้ตายน่าจะเป็นคนวางเพลิง เพราะอาจจะอยากได้สมบัติ แต่เรื่องราวก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนมาสรุปว่า ชายผู้มาขายของเก่าที่บ้านเป็นผู้ลงมือวางเพลิงและถูกจับเข้าคุก แต่ว่าคดีก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะโคนันและฮัตโตริได้พบเครื่องดักฟังในบ้านของเจ้าของร้านของเก่าที่ถูกจับกุมไป ว่ายังมีบางอย่างน่าสงสัยต่อไปอีก ชวนให้งุนงง และ น่าลุ้นกันเข้าไปอีก ตรงนี้นับถือคนแต่งเรื่องเลย ที่สามารถผูกเรื่องราวได้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน แบบน่าติดตามไม่ให้หยุดเลย จนในที่สุดโคนันและฮัตโตริก็สามารถไขปริศนาได้สำเร็จทะลุปรุโปร่ง ฆาตกรก็คือ...จุ๊ จุ๊..ต้องไปลองดูกันเองนะคะ เดี๋ยวจะไม่สนุกการ์ตูนเรื่องนี้ นอกจากจะสร้างความตื่นเต้น อยากรู้ให้กับผู้ดูแล้ว เค้ายังสอนเรื่องต่าง ๆ ให้เราเป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย เด็กที่ได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้ ก็จะได้รับความรู้ไปไม่มากก็น้อย เช่นสินสมรส เป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นหลังจากแต่งงานแล้ว ที่ทั้งคู่ร่วมกันทำให้เกิดขึ้น กรณีที่ผู้ตายมีทรัพย์สินเป็นที่ดินและตัวบ้าน ก่อนจะมาแต่งงาน แสดงว่าพื้นที่นั้นเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรสเทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าที่คนนับถือกันมากด้านโชคลาภ เป็นนักรบ ที่กล้าหาญ  มักขี่ม้าสีแดงการละเมอเดิน เป็นอาการอย่างหนึ่งในช่วงหลับฝัน มักเกิดขึ้นกับเด็กเท่านั้นเครื่องดักฟัง สามารถติดไว้ตามโทรศัพท์เพื่อฟังคำพูดต่าง ๆ ของบุคคลถือว่าการ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ใช่การ์ตูนที่ให้ความบันเทิงอย่างเดียว แต่ยังมีสาระประโยชน์ ที่ผู้เขียนเรื่องตั้งใจจะสอดแทรกความรู้ แนวคิด สาเหตุ เหตุผล และการสังเกต ให้กับผู้อ่านหรือผู้ดูการ์ตูนอีกด้วย ช่วงปิดเทอมแบบนี้ ที่เราไม่สามารถพาเด็กออกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ ลองเปิดการ์ตูนเรื่องนี้ให้เด็กดู และ นั่งดูพร้อม ๆ กัน ช่วยกันคิดวิเคราะห์คดี ก็เข้าท่าไม่น้อยค่ะขอบคุณภาพทั้งหมดจาก TrueID ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Detective Conan the Series Y8 EP.350 

[รีวิวเกม] STORY OF SEASONS A Wonderful Life ตำนาน ฮาเวสมูนฉบับรีเมก
อ่าน

[รีวิวเกม] STORY OF SEASONS A Wonderful Life ตำนาน ฮาเวสมูนฉบับรีเมก

หนึ่งในต้นตำหรับของเกมแนวปลูกผักทำไร่อย่างซีรีส์ Harvest Moon ที่หลังจากทีมงานเปลี่ยนมาใช้ชื่อ STORY OF SEASONS ในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีแฟน ๆ ติดตามมากมายรวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้เกมรุ่นน้องอย่าง Stardew Valley ด้วย และหนึ่งในภาคที่ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดภาคหนึ่งคือภาค Harvest Moon: A Wonderful Life ในตอนนั้นยังใช้ชื่อ Harvest Moon อยู่ โดยเกมวางขายบน PS2, Gamecube ในปี 2003 ที่นอกจากจะรักษาความเป็นเกมแนวปลูกผักทำไร่ไว้ครบแล้ว ยังมาพร้อมกับกราฟิกที่ดูดีในยุคนั้นด้วย ทำให้ไม่แปลกที่การกลับมาอีกครั้งแบบรีเมกใหม่ในชื่อ STORY OF SEASONS A Wonderful Life จะได้รับเสียงตอบรับที่ดี โดยเกมวางขายบน Nintendo Switch ก่อนในตอนนี้ แต่จะออกบน PlayStation 5, Xbox Series X|S, และ PC ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษช่วงกลางปี 2023 เรื่องราวในภาคนี้ยังคงเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเราสามารถเลือกเพศของตัวละครได้ทำให้สามารถเป็นผู้หญิงได้แล้ว และเนื้อเรื่องหลัก ๆ จะคงเหมือนเดิมที่ผู้เล่นต้องสานต่อกิจการฟาร์มจากคุณพ่อ และสานสายสัมพันธ์กับคนในเมืองเพื่อเชื่อมต่อเรื่องราว และยังมีการแต่งงานรวมทั้งมีทายาทที่ต้องเลี้ยงดูไปจนโต ถือว่าเป็นภาคที่มีความหลากหลายตั้งแต่ต้นฉบับ ทำให้การมารีเมกใหม่ดูดีไม่เชย กราฟิกน่ารักตามแบบฉบับ Harvest Moon สิ่งที่น่าจะสร้างความประทับใจทันทีคือกราฟิก ที่มีการสร้างใหม่ทั้งหมดแม้จะมาแบบ 3 มิติเหมือนกันแต่ภาครีเมกการปรับให้มีมุมมองที่กว้างกว่าเดิมมาก ฉากในเกมถูกสร้างใหม่หมดและเก็บรายละเอียดได้ดี โดยเฉพาะตัวละครที่หากเคยเล่นต้นฉบับมาแล้วจะหลงรักกับตัวละครในเกมแน่ แม้ว่าความละเอียดของฉากจะไม่ได้โดดเด่นเท่ากับเกมยุคใหม่แต่ก็ไม่ได้ดูแย่ โดยเฉพาะเฟรมเรตที่ลื่นไหลพอตัว รวมทั้งฉากในเกมที่มีความกว้างและผู้สร้างพยายามทำให้เป็นแผนที่เดียวทำให้มีจุดโหลดไม่มากและโหลดไม่นานด้วย เพลงประกอบก็เอาของเดิมมาปรับแต่งใหม่เช่นกัน ทำให้แฟนเก่าต้องชอบ แม้ว่าโดยรวมจะเรียบไปหน่อยก็ตามแต่ก็เข้ากับกราฟิกและแนวทางของเกม เสียงพากย์ในเกมก็ไม่มีโดยตรงแต่ก็คงไม่ใช่ข้อเสียเพราะมันเป็นแนวทางที่ผู้สร้างใช้มายาวนานแล้ว เกมเพลย์เหมือนเดิมปรับแต่งให้ทันสมัย หากคุณเคยเล่นต้นฉบับบน PS2 มาแล้ว STORY OF SEASONS A Wonderful Life ก็คงแทบไม่ต้องบอกอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่จะเหมือนเดิม ที่เราต้องพัฒนาไร่ของเราและเพิ่มผลผลิตแล้วเอาไปขายเพื่อนำเงินมาอัปเกรด ที่มีการปรับระบบเมนูใหม่เพื่อให้เข้ากับปุ่มกดของเครื่องเกมยุคใหม่ ทำให้สามารถเรียกอุปกรณ์ออกมาใช้งานได้ง่ายดายกว่าเดิมด้วย ผู้เล่นจะมีอิสระว่าจะทำอะไรก็ได้ในเมืองที่แสนสวยงามและสงบสุข เราจะเลือกปลูกผักทำไร่เลี้ยงสัตว์เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตามใจ ผ่านระบบเมนูที่ดูไม่ยาก แต่ในตอนนี้ยังมีแต่ภาษาญี่ปุ่นทำให้ต้องใช้การเดากันหน่อยแต่ก็ไม่ได้ยากเย็น เรายังสามารถใช้คู่มือจากต้นฉบับเพื่อมาเล่นได้ ส่วนการสำรวจฉากเพื่อทำเนื้อเรื่องก็ทำได้ง่ายดาย แม้ฉากในเกมอาจจะไม่ได้กว้างแต่ก็มีอะไรให้ทำมากมาย อย่างไรก็ตามมันก็กำหนดด้วยภารกิจที่หากไม่ทำก็จะไม่สามารถปลดล็อกบางส่วนของฉากได้ เนื้อเรื่องยังโดดเด่นมีของใหม่ใส่มาด้วย แน่นอนว่าจุดเด่นของซีรีส์คือการทำเนื้อเรื่องที่มีการใส่มาตลอด และจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาฤดูกาล ส่วนสิ่งที่ต้องทำคือการแต่งงานที่เราสามารถเลือกคนที่ชอบแล้วสานสายสัมพันธ์และเมื่อความรักสุกงอมก็จะได้แต่งงานกัน รวมทั้งมีลูกด้วย และตัวละครที่เราเลือกจีบได้จะมาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนกราฟิกให้เข้ากับยุคสมัย และส่วนที่เพิ่มเข้ามาของภาครีเมกไม่ได้มีแค่กราฟิกกับระบบบางส่วน นอกจากนี้ผู้สร้างยังได้ใส่เนื้อเรื่องใหม่เข้าไปให้เราไปทำ แม้ว่าแกนหลักจะยังคงเหมือนเดิมแต่ก็เสริมให้มีอะไรแตกต่าง นอกจากนี้ยังเพิ่มเมล็ดพันธุ์พืชชนิดใหม่ให้เราเพาะปลูก และยังมีเมนูอาหารใหม่ ๆ ให้เราปรุงและที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือการรีเมกยังมาพร้อมการปรับเปลี่ยนงานเทศกาลให้ดูดีขึ้นด้วย การกลับมาของเกม STORY OF SEASONS A Wonderful Life เป็นการนำตำนาน Harvest Moon หนึ่งในภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดมารีเมกใหม่ที่ทำออกมาได้ดีตามคาดไว้ เพราะได้ทีมงานต้นฉบับมาสร้าง และยังนำจิตวิญญาณของซีรีส์ปลูกผักทำไร่ใส่เข้ามาด้วย ใครเป็นแฟนตัวจริงต้องไม่พลาดอยู่แล้ว และหากคุณไม่เคยเล่นมาก่อนแล้วอยากลองก็เหมาะอย่างยิ่งที่จะเริ่มกับภาคนี้

รู้ 7สิ่งนี้ ก่อนจะทำธุรกิจของ GenY และ Gen Z
อ่าน

รู้ 7สิ่งนี้ ก่อนจะทำธุรกิจของ GenY และ Gen Z

สิ่งที่ต้องแลกมาก่อนจะลงมือทำธุรกิจของคนรุ่นใหม่        จากเรื่องราวของหนังใหม่ ที่เกี่ยวกับธุรกิจ express ของค่ายหนัง streaming  ยักษ์ใหญ่ ได้จุดกระแสของ คนรุ่นใหม่ มีความสามารถหลากหลาย และ มีความจริงจัง มุ่งมั่น ไฟแรง ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง อยากเป็น Unicorn หรือ Startup แบบในหนัง ประเด็นและข้อคิดจากในหนัง เราจะไม่พูดถึงในบทความนี้นะคับ เพราะมีคนเขียนไว้เยอะแล้ว (บทความนี้ได้เริ่มศึกษามากก่อนที่จะมีการออกฉายของหนังดังกล่าวล่วงหน้า)        สำหรับ น้อง ๆ ที่กำลังคิดจะค้าขาย หรือมองหาธุรกิจ ในช่วงนี้ หรืออาจจะเริ่มอยู่ในช่วงแรก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการ โดยเฉพาะคนที่เคยทำงาน  หรือ พนักงานออฟฟิศที่ทำงานมาระยะหนึ่ง  อยากให้ดู เช็คลิสต์ทั้ง 7 ข้อนี้ไว้ก่อน ถ้าไม่ผ่านข้อใดข้อหนึ่ง อาจนำมาซึ่งความล้มเหลวมาได้ในที่สุด 1- รู้จักลูกค้าให้ดี อย่างเจาะลึกและตรงกับความเป็นจริง ในทางการตลาดเรียกว่า กลุ่มเป้าหมาย Target ใครคือลูกค้าเรา เป็นคนประเภทไหน ใช้จ่ายเงินอย่างไรบ้าง และทำไมเค้าถึงมาซื้อสินค้าหรือบริการเรา  มี Pain Point อะไรบ้างที่เราสามารถตอบสนองให้ลูกค้าได้อย่างดี ต่างจาก ร้านค้ารอบ ๆ บริเวณนั้น  location ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของเรา อันนี้ต้องศึกษาและแยกแยะให้ดี ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟ one to  two 2- หุ้นส่วนในธุรกิจ ส่วนใหญ่ ในGen นี้ มักจะเป็นการรวมกลุ่มของเพื่อนๆ กัน ก่อตั้งทำธุรกิจเล็กๆ และช่วยแบ่งงานกันไปรับผิดชอบในแต่ละส่วน เรียกว่า Startup เล็กๆ ได้เหมือนกัน ตามทักษะที่ถนัดของแต่ละคน ไม่มีใครจะเก่งในทุกๆ เรื่อง คุยกันให้รู้เรื่องก่อนจะลงมือทำแล้วก็ทำเป็นสัญญาให้ถูกต้อง ลงลายมื่อชื่ออย่างเป็นทางการ เพราะธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา ระยะยาว เกี่ยวข้องกับการเงิน ความรับผิดชอบ จะเปลี่ยนใจไป เปลี่ยนมา ไม่ได้ นอกจากเสียธุรกิจแล้ว ยังเสียเพื่อนรักอีก   3- อย่าลืมต้นทุนแฝง ของกิจการ โดยส่วนใหญ่กิจการเล็กๆ ที่เริ่มดำเนินการ โดยคนไม่กี่คน จะมีต้นทุนที่เราอาจจะลืมคิดเข้าไปในกิจการ  บางธุรกิจทำยอดขายได้ดี แต่ทำไมไม่มีกำไร หรือ มีแต่ตัวเลขในทางบัญชีแต่ไม่มีเงินสด เช่น ค่าแรงเจ้าของ  ค่าทางด่วน  ค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ค่าเสียเวลาต่างๆ ดูได้จากธุรกิจโอทอป 5ดาว ต่าง ๆ ยิ่งขายยิ่งจน   4- แผนการประชาสัมพันธ์ สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ Social Marketing เป็นส่วนนึงใช้ชีวิต storytelling เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรก ณ เวลานี้ ต้องกระจายออกให้หมดในทุกช่องทางที่มีโอกาส TikTok/ Facebook/ Instagram / Youtube  5- เตรียมเงินหมุนเวียนไว้ด้วย กระแสเงินสดที่ต้องใช้ในการดำเนินการ อย่างน้อย ต้องมี 2 – 4 เดือน แล้วแต่กิจการ ธุรกิจ เช่น ค่าพนักงาน ค่าวัตถุดิบ และเหตุไม่คาดฝันต่างๆ เช่น โรคระบาด  แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน  ไฟฟ้าดับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในยุคนี้   ยอดขายไม่ได้เข้ามาในวันแรก และเดือนแรก ตามแผนงานที่คาดหวังเสมอไป เงินหมุนเวียน       6- ทดลองตลาดก่อนเปิด ขายจริง ถ้าสินค้าที่เรามีอยู่ สามารถแจกทดลองทานหรือ ชิม ในกลุ่มคนเล็กก่อน เพื่อนำ Feedback กลับมาปรับปรุงรสชาติ ก่อนจะออกสู่ตลาด การทดสอบระบบและดำเนินการให้บริการลูกค้าในกลุ่มย่อย ก่อนจะเปิดจริง เช่น ร้านซักอบรีด  ตู้หยอดเหรียญ  เปิดให้ลูกค้าทดลองใช้ได้เลย ง่ายที่สุดคือการประชาสัมพันธ์ใน Social Media ก่อนวันเปิดกิจการจริง     7- อย่าเอาเงินไปลงทุนกับการตกแต่งและสต๊อกสินค้ามากจนเกินไป อาจจะเป็นเรื่องยากในการคำนวณ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ในระยะเริ่มต้น  แต่ก็เป็นส่วนสำคัญ  ถ้าสต๊อกมีมากเกินไป ที่ทำให้เงินสดจมอยู่ในธุรกิจนาน  วัตถุดิบหรือสินค้าหมดอายุ ถ้าน้อยเกินไป สินค้าไม่พอขาย ลูกค้ารอนาน อาจจะมีผลต่อความพึงพอใจและชื่อเสียงของแบรนด์ในระยะต่อมา ในธุรกิจของการผลิตสินค้า อาจจะต้องสร้างความสมดุลระหว่าง การผลิต  เวลา  และสินค้าคงเหลือ Safety Stock ในธุรกิจของการให้บริการ ความสามารถของพนักงานแต่ละคน  การแก้ไขปัญหา คุณภาพของบริการ ระยะเวลาส่งมอบ  บริการหลังการขาย เป็นต้น   ภาพปก: ขอขอบคุณภาพจากคุณ jarmoluk โดย Pixabay ภาพที่1: ขอขอบคุณภาพจากคุณ Madun_Digital โดย Pixabay ภาพที่2: ขอขอบคุณภาพจากคุณ RonaldCandonga โดย Pixabay ภาพที่3: ขอขอบคุณภาพจากคุณ Michelle_Pitzel โดย Pixabay ภาพที่4: ขอขอบคุณภาพจากคุณ lukasbieri โดย Pixabay ภาพที่ 5: ขอขอบคุณภาพจากคุณ ClickerHappy โดย Pixabay ภาพที่ 6: ขอขอบคุณภาพจากคุณ Mediamodifier โดย Pixabay   เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !